
ความน่ารัก ชิสุห์ สุนัขพันธุ์เล็ก ที่แสนจะเป็นมิตร
- เฌออัณณ์
- 127 views
ความน่ารัก ชิสุห์ น้องเป็นสุนัขสายพันธุ์เล็ก เป็นสัตว์เลี้ยง ในสมัยราชวงศ์ Ming ของจีน และเป็นสุนัขอีกหนึ่งสายพันธุ์ ที่ได้รับความนิยม ในการเลี้ยงดู กันอย่างแพร่หลาย ซึ่งคนส่วนใหญ่ ต่างรู้จักสุนัขพันธุ์นี้กันดี ซึ่งสุนัข Shih Tzu เป็นสุนัขที่มีหน้าตา น่ารักน่าเอ็นดู มีขนาดตัวเล็ก กะทัดรัด น่าทะนุถนอม ทำให้ใครหลายคน หลงรักน้องได้อย่างง่ายดาย
ชิสุห์ เป็นสุนัขที่มีอุปนิสัยดี เป็นมิตรต่อผู้อื่น มีความซื่อสัตย์ จงรักภักดีต่อเจ้าของ แถมยังเข้ากับเด็ก และสัตว์เลี้ยงตัวอื่นได้ดี น้องเป็นสัตว์เลี้ยง ที่มีถิ่นกำเนิด มาจากประเทศจีน เช่นเดียวกับ สุนัขปั๊ก และสุนัข ปักกิ่ง โดยน้องสุนัขชิสุห์ ไม่ได้มีดีแค่รูปร่างหน้าตา แต่น้องยังเป็นสุนัข ที่รักเจ้าของมาก เห็นตัวเล็กๆ น่ารักๆ แบบนี้ น้องสุนัขสามารถ เป็นสุนัขเฝ้าบ้าน ที่ยอดเยี่ยมได้อีกด้วย
ที่มา: Shih Tzu [1]
สุนัขสายพันธุ์ชิสุห์ เป็นอีกหนึ่ง สุนัขสายพันธุ์เก่าแก่ ที่มีต้นกำเนิด มาจากทิเบตเมื่อ 2,000 ปีที่แล้ว เป็นสุนัขที่เกี่ยวข้อง กับราชวงศ์ และมีหน้าที่เป็นสุนัขเฝ้ายาม ของพระราชวัง รวมถึงเป็นสุนัข ที่ได้รับความนิยม ในหมู่ชนชั้นสูง และเหล่าราชวงศ์ ของจีน ซึ่งมีกฎห้าม เกี่ยวกับสุนัขชิสุห์ ที่ห้ามมีการขาย หรือแลกเปลี่ยนสุนัข โดยเด็ดขาด
ซึ่งสุนัขสายพันธุ์นี้ มีความเกี่ยวข้อง กับพุทธศาสนา และได้รับการเพาะพันธุ์ ให้มีลักษณะคล้ายสิงโต โดยพระทิเบต และได้มีตำนานเล่าว่า เทพเจ้าแห่งการเรียนรู้ ของชาวพุทธ ในทิเบต ได้ออกเดินทางไป พร้อมกับสุนัขที่คล้ายกับสิงโต แต่ที่พิเศษคือสุนัขตัวนี้ สามารถแปลงร่าง เป็นสิงโตตัวใหญ่ได้
ที่มา: สุนัขสายพันธุ์ชิสุ (Shih tzu) [2]
ชิสุห์ เป็นสุนัขสายพันธุ์เล็ก จัดเป็นสุนัขในกลุ่ม Toy Group มีรูปลักษณ์โดยรวม ที่ดูดีและน่ารักมาก น้องสุนัขพันธุ์นี้ มีอุปนิสัยที่เด่นชัดเลย คือความเป็นมิตรต่อผู้อื่น เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังงานบวก ร่าเริงแจ่มใส่ และ ชอบเล่นสนุกสนาน เป็นเพื่อนเล่นกับเด็กๆ ได้เป็นอย่างดี รวมถึงเข้ากับมนุษย์ และสัตว์ชนิดอื่นได้ดี
ลักษณะทางกายภาพ : เป็นสุนัขขนาดเล็ก มีรูปร่าง ที่มั่นคงแข็งแรง จะมีลักษณะ ปากสั้น ดวงตากลมโต มีขนยาวสลวย ปกคลุมทั่วตัว และขนมีหลากหลายสี เช่น สีน้ำตาล กับสีขาว, สีดำกับสีขาว หรือ สีขาวกับสีเทา เป็นต้น ซึ่งจะมีน้ำหนักตัวอยู่ที่ ประมาณ 4-7.5 กิโลกรัม และสูงประมาณ 20-28 เซนติเมตร [3]
ลักษณะอุปนิสัย : เป็นสุนัขที่ใจดี เป็นมิตรกับผู้อื่น สามารถเข้ากับผู้คน ได้ทุกเพศทุกวัย มีนิสัยที่ซื่อสัตย์ จงรักภักดีต่อเจ้าของ ช่างเอาอกเอาใจคนที่ตัวเองรัก แถมยังมีนิสัยที่ชอบเห่า แต่จะไม่กัด หรือแทะสิ่งของ รวมถึงเข้ากับสุนัขตัวอื่น และสัตว์เลี้ยงชนิดอื่นๆ เช่น แมว หรือ หนู ได้อีกด้วย
สำหรับใคร ที่อยากให้น้องสุนัข มีสุขภาพที่ดี และแข็งแรง เจ้าของจะต้องดูแล และให้ความใส่ใจ น้องสุนัขในด้านต่างๆ อย่างสม่ำเสมอ เพื่อสุขภาพที่ดีของน้องสุนัข โดยมีวิธีการดูแลง่ายๆ ดังต่อไปนี้
การออกกำลังกาย : สุนัขสายพันธุ์นี้ ต้องออกกำลังกายทุกวัน เพื่อให้ร่างกายแข็งแรง และ มีจิตใจที่แจ่มใส โดยการออกกำลังกาย เพียงวันละประมาณ 30 นาที หรือ 1 ชั่วโมงต่อวัน ก็ถือว่าเพียงพอแล้ว แค่พาน้องหมา ออกไปเดินเล่น หรือ เล่นของเล่นแบบโต้ตอบ ก็ถือว่าเป็นการ ออกกำลังกายแล้ว
ความสะอาด : ควรมีการอาบน้ำ และตัดขนทุก 4-6 สัปดาห์ ซึ่งเจ้าของจะต้องดูแลขน และแปรงขน อย่างเป็นประจำ เพราะขนน้องหมายาว จะได้ป้องกัน ไม่ให้ขนพันกัน และแปรงขน หรือ ตัดเล็บให้น้องหมาด้วยรวมถึงทำความสะอาด บริเวณรอบดวงตา เพราะสุนัขพันธุ์นี้ มักมีคราบน้ำตา
การให้อาหาร : น้องสุนัข จะต้องได้รับอาหาร ที่มีคุณค่าทางโภชนา และให้อาหาร ในปริมาณ ที่เหมาะสมตามช่วงอายุ โดยลูกสุนัข ควรให้อาหาร 3-4 ครั้งต่อวัน เมื่อน้องสุนัขมีอายุถึง 6 เดือน จึงลดปริมาณ การให้อาหารลง เหลือเพียง 2 ครั้งต่อวัน และควรหลีกเลี่ยงอาหาร ที่ส่องผลเสียต่อสุนัข
ที่มา: Shih Tzu breed guide: Care, training, and fun facts [4]
สรุป ความน่ารัก ชิสุห์ เป็นสุนัขสายพันธุ์เล็ก อีกหนึ่งสายพันธุ์ ที่ได้รับความนิยม ในการเลี้ยงดู กันอย่างแพร่หลาย นอกจากน้องสุนัข จะมีรูปลักษณ์ภายนอก ที่ดูดีแล้ว น้องยังเป็นสุนัข ที่มีนิสัยที่น่ารักมาก ไม่มีพฤติกรรมที่ก้าวร้าว หรือ ดุร้ายแต่อย่างใด แถมยังอยู่ร่วมกับผู้อื่น รวมถึงสัตว์เลี้ยงชนิดอื่น ได้อีกด้วย
สุนัขสายพันธุ์นี้ จะชอบมีปัญหา เกี่ยวกับกระดูก และข้อต่อ ได้แก่ โรคกระดูกสะบ้าเคลื่อน กับโรคหมอนรอง กระดูกสันหลัง รวมถึงมีปัญหา เกี่ยวกับดวงตา ได้แก่ ดวงตาแห้ง กับ ต้อกระจก ที่อาจส่งผล ให้น้องสุนัข ถึงขั้นตาบอดได้ และปัญหาสุขภาพช่องปาก ที่อาจทำให้น้องสุนัข ถึงขั้นสูญเสียฟันได้
เวลาที่น้องสุนัขไม่สบาย หรือ ป่วยนั้น สามารถสังเกต ได้จากหลายอาการด้วยกัน ซึ่งถ้าหากน้องไม่สบาย เจ้าของต้องรีบ พาน้องสุนัข ไปพบแพทย์โดยทันที และวิธีการสังเกต อาการป่วยของสุนัขนั้น มีดังต่อไปนี้