แหล่งรวมเกมส์ชั้นนำ สล็อต คาสิโน บาคาร่า พร้อมระบบล้ำทันสมัย รวดเร็วทันใจ

รีวิว JADE หยกเขียว อัญมณีงดงาม ยอดนิยม

รีวิว JADE

รีวิว JADE หรือ หยก ซึ่งเป็นอัญมณีคู่กายของชาวจีน เนื่องจากได้รับความนิยมจากคนจีนเป็นอย่างมาก โดยในสมัยก่อนหยกถูกแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ หยกเจไดท์ (Jadeite) และ หยกเนฟไฟรท์ (Nephrite) ซึ่งหยกเจไดท์ เป็นหยกที่มีสีสันสวยงาม จึงทำให้ได้รับความนิยมมากที่สุด ในการนำมาใช้

ความหมายและที่มาของหยก

“หยก”เป็นคำที่มาจากภาษาจีนแมนดาริน ออกเสียงว่า “หยู” หรือ “ยู่” ที่มีความหมายว่า งดงามและทนทาน โดยภาษาอังกฤษ ออกเสียงเป็น “เจด”

หยกหมายถึง หินสีเขียวที่มีลักษณะเนื้อที่มีความใส ถึง เกือบทึบแสง โดยจะมีชื่อเรียกที่แตกต่างกัน เช่น หยกอินเดีย หยกจีน หยกพม่า หยกโมรา เป็นต้น ส่วนในทางอัญมณีศาสตร์ ได้ให้ความหมายของหยกไว้ว่า หินที่ประกอบด้วยแร่เจดไดท์ (Jadeite) หรือ เนฟไฟรท์ (Nephrite) เป็นส่วนประกอบหลัก

หากมีส่วนประกอบแร่เจดไดท์ เป็นหลัก เราเรียกกันว่าหยกเจดไดท์ ซึ่งเป็นหยกที่หายากและมีราคาแพงกว่าหยกที่มีประกอบของแร่เนฟไฟรท์ เป็นหลัก

ที่มา: หยก [1]

ทำไมหยกถึงเป็นหิน ไม่ใช่พลอย

หยกถูกจัดว่าเป็นหิน เนื่องจากส่วนประกอบของหยกนั้น ประกอบไปด้วยผลึกแร่ขนาดจุลภาค (Cryptocrystalline) ที่รวมตัวกันแน่น ไม่ได้เกิดเป็นผลึกเดี่ยว และเมื่อมีการขยายดูเนื้อหยกด้วยกล้องจุลทรรศน์ จะเห็นหยกเจดไดท์มีเนื้อเป็นแบบมวลเม็ดอัดแน่น ส่วนหยกเนฟไฟรท์มีเนื้อเป็นแบบเส้นใยสานกันแน่น

ดังนั้น หยกเนฟไฟรท์จึงมีความเหนียวกว่าหยกเจดไดท์ โดยอาจจะกล่าวได้ว่า หยกมีความแข็งกว่าหินและเหนียวกว่าเหล็ก อีกทั้งหยกยังมีเนื้อที่ไม่โปร่งใส แต่กลับมีเนื้อที่เหนียวกว่า ทำให้ไม่เปราะแตกง่ายเมื่อนำมาเทียบกับพลอยเนื้อใสที่เป็นผลึกเดี่ยว

รู้จัก หินอัญมณีล้ำค่า

หยก เป็นชื่อที่ใช้เรียกหินที่มีคุณสมบัติเป็นดั่งอัญมณีล้ำค่าชนิดหนึ่ง โดยชาวจีนได้ถือหยกเป็นดั่งเจ้าแห่งหินที่มีค่าทั้งมวล โดยในอดีตนั้น มนุษย์เรามีความเข้าใจว่าหยกมีเพียงชนิดเดียว แต่ต่อมาเมื่อมีการพัฒนาความรู้เกี่ยวกับเคมีมากขึ้น จึงทำให้สามารถแยกหยกได้เป็น 2 ชนิด คือ

  • เจไดท์ (Jadeite)
    เป็นหยกที่มีองค์ประกอบทางเคมีเป็นโซเดียมอะลูมิเนียมซิลิเกต (NaAl (SiO3)2, Sodium aluminium silicate) จึงทำให้หยกชนิดนี้ มีสีเขียวที่มีความเข้มและสดกว่าเนไฟรต์ ถูกจัดให้เป็นหยกคุณภาพดี โดยอยู่ในระบบผลึกแบบหนึ่งแกนเอียง เป็นหยกที่มีความแวววาว ตั้งแต่แบบแก้วจนถึงแบบน้ำมัน โดยหยกเจไดท์จะมีความแข็งอยู่ที่ 6.5–7 มีสีในเนื้อพลอยเฉพาะตัว และส่วนมากสีที่พบมักจะไม่สม่ำเสมอกัน
  • เนไฟรท์ (Nephrite)
    เป็นหยกที่มีองค์ประกอบทางเคมีเป็นแคลเซียมแมกนีเซียมซิลิเกต (Calcium magnesium silicate) อยู่ในระบบผลึกหนึ่งแก่นเอียงเช่นเดียวกับเจไดท์ โดยธรรมชาติมักพบหยกชนิดนี้เกิดเป็นผลึกกลุ่มที่มีขนาดเล็กรูปเส้นใยเดียวกัน ซึ่งหยกเนไฟรท์จะมีความแข็งอยู่ที่ 6–6.5 น้อยกว่าเจไดท์ ในส่วนของสี จะมีสีที่มีความเฉพาะตัวเหมือนหยกเจไดท์ แต่สีเข้มไม่เท่า และมีสีมืดมากกว่า

ที่มา: หยก [2]

Jadeite Jade หยกที่ได้รับความนิยม

รีวิว JADE

หยกเจดไดท์เป็นหยกที่มีเนื้อใสกว่าหยกเนฟไฟรท์ และพบได้เพียงไม่กี่แห่งจากทั่วโลก จึงทำให้หยกเจไดท์มีราคาที่สูงกว่าหยกชนิดอื่น โดยส่วนใหญ่หยกเจดไดท์ ที่คุณภาพดี มีแหล่งที่มาจากประเทศพม่า จึงทำให้ในการซื้อขายจึงเรียกหยกเจดไดท์ ว่าหยกพม่า (Burmese jade) นั่นเอง

คุณสมบัติเฉพาะตัว
อย่างที่กล่าวไปว่า หยกเจดไดท์เป็นหยกที่มีเนื้อใสและมีสีสันที่หลากหลายกว่าหยกเนฟไฟรท์ ซึ่งสีของหยกเจดไดท์ นั้นเป็นสีที่ได้มาจากธาตุโลหะที่แทรกอยู่ในโครงสร้างของหิน เพราะถ้าไม่มีธาตุโลหะ หรือเป็นเจดไดท์บริสุทธิ์ หยกนั้นจะมีสีขาวและเนื้อใส แต่หากมีการแทรกของธาตุโลหะ จะทำให้เกิดสีในหยก ซึ่งธาตุโลหะชนิดไหน ให้สีอะไรบ้าง มีดังนี้ ธาตุโครเมียม ให้สีขาว ธาตุเหล็ก ให้สีเหลือง น้ำตาล ถึงส้ม และธาตุแมงกานีส ให้สีชมพูและม่วงน้ำตาล

ชื่อเรียกหยกเจไดท์ตามชนิดของสีและความใสของเนื้อหยก

  • หยกจักรพรรดิ: ขึ้นชื่อว่าเป็นหยกที่มีคุณภาพดีที่สุด โดยสีจะเป็นสีเขียวปานกลางถึงเขียวเข้ม การกระจายตัวของสีเรียบสม่ำเสมอทั้งเม็ด มีความกึ่งโปร่งใสจนทำให้มองทะลุได้ไปถึงด้านหลัง
  • หยกยูนนาน: เป็นหยกที่มีสีเขียวเข้ม และมีความกึ่งโปร่งแสงไปจนเกือบทึบแสง จึงมักถูกนำมาเจียระไนเป็นแผ่นบางๆ โดยมีแหล่งอยู่ที่มณฑลยูนนานของประเทศจีน
  • หยกลาเวนเดอร์: หยกที่มีสีม่วงอ่อน ที่มีเนื้อกึ่งโปร่งใสจนถึงโปร่งใส
  • หยกลายมอสส์ในหิมะ: หยกสีขาว เนื้อโปร่งแสงจนถึงเกือบทึบแสง โดยหยกชนิดนี้จะมีสีเขียวที่กระจายอยู่ประปรายเป็นหย่อมๆ คล้ายกับต้นมอสส์ที่ขึ้นอยู่บนหิมะ
  • หยกกระดูกไก่: หยกเนื้อทึบ ที่มีสีขาวถึงสีเทา คล้ายสีของกระดูกไก่
  • หยกลายทองคำ: หยกที่มีเนื้อสีดำและสีทองกระจายประปรายปนกันอยู่ ซึ่งสีทอง เป็นสีที่ได้มาจากผลึกแร่ไพไรต์ ส่วนสีดำของเนื้อหยกเกิดจากการมีมลทินเหล็กที่ปะปนอยู่มากนั่นเอง

การวิเคราะห์ และขั้นตอนดูหยก

  • การวิเคราะห์หยกแต่ละชนิด
    ต้องอาศัยความชำนาญและเครื่องมือในการตรวจสอบที่แม่นยำ โดยหยกที่ผ่านการปรับปรุงหรือแก้ไข ย่อมทำให้มีคุณภาพและราคาที่ถูกกว่าหยกธรรมชาติ ดังนั้นเพื่อให้มั่นใจ ควรส่งหยกที่ต้องการตรวจสอบเข้าห้องแล็บตรวจถึงจะดีที่สุด
  • ด้านสี
    หยกที่ดี ต้องเป็นหยกที่มีการกระจายสีสม่ำเสมอ ไม่มีรอยด่าง หรือจุดสีด่าง ซึ่งหยกสีเขียว เป็นสีที่มีหลายโทนสี ตั้งแต่สีเขียวอ่อน สีเขียวแอปเปิล สีเขียวอมเหลือง ดังนั้นในการเลือก ควรเลือกสีเขียวที่มีความสด ไม่เข้มหรืออ่อนเกินไป ข้อควรระวัง: หยกบางชิ้นมีการย้อมสีเป็นหย่อมๆ ทำให้ดูเหมือนเป็นหยกธรรมชาติ จึงต้องระมัดระวังในเรื่องสีด้วย
  • เนื้อ
    เนื้อหยกมีตั้งแต่โปร่งใส โปร่งแสง ไปจนถึงทึบแสง ดังนั้นหยกที่คุณภาพดี จะต้องมีเนื้อที่มีความละเอียด และโปร่งใส นั่นก็คือ หยกเนื้อแก้ว (Glassy) ดังนั้นในการเลือก ควรเลือกหยกที่เนื้อละเอียด ไม่มีรอยร้าว และผิวหยกมีความเนียน ไม่มีรอยแตกหรือรอยขีดข่วนที่มองเห็นได้ชัดเจน

ที่มา: รอบรู้เรื่องอัญมณี ตอนที่ 14 : หยก [3]

คุณสมบัติที่พิเศษของหยก ที่น่ารู้

  • ด้านศาสนาและธรรมชาติ:
    หยกนิยมถูกนำมาใช้ร่วมในพิธีกรรมทางศาสนาและทำเนียบที่สำคัญ เนื่องจากมีความเชื่อว่า หยกสามารถช่วยเสริมสร้างพลังงานในร่างกายและกระตุ้นจิตวิญญาณได้ นอกจากนี้ยังมีการนำหยกมาใช้ในการผลัดสภาพจิตใจและบำบัดทางจิตวิญญาณ
  • ด้านศิลปะและงานฝีมือ:
    สำหรับศิลปินและช่างฝีมือ หยกถือได้ว่าเป็นวัตถุดิบที่มีความน่าสนใจ โดยสามารถนำหยกมีประดับหรือตกแต่งการแต่งกาย หรือการนำหยกมาสร้างสรรค์เป็นผลงานศิลปะทำให้เกิดคุณค่าและความสวยงาม
  • ด้านการรักษาสุขภาพ:
    หยกมีคุณสมบัติทางธรรมชาติที่สามารถนำมาใช้ในการรักษาสุขภาพได้ โดยยาและสารเสริมที่ผลิตจากแร่หยก มีสรรพคุณที่ช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อย ลดอัตราการเกิดกระแสเลือด และช่วยควบคุมระดับพลังงานในร่างกายได้อีกด้วย

หาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ แร่หยก ได้ที่ yoksinjade

สรุป รีวิว JADE

สรุป รีวิว JADE หยกที่ถูกจัดว่าเป็นหินอัญมณี ที่มีความสำคัญ ดังนั้นตั้งแต่ในอดีต-ปัจจุบันจึงได้มีการนำคุณสมบัติพิเศษของหยกมาใช้ นอกจากนี้หยกยังเป็นสัญลักษณ์ของความร่ำรวยและความสำเร็จในหลายๆ ด้าน จึงถือได้ว่าหยกเป็นอัญมณีอีกชนิดหนึ่งที่ยังคงได้รับความนิยมอย่างมากตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน

หินหยก เหมาะกับใคร

เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการแรงบันดาลใจ เนื่องจากเป็นหินที่มีความเชื่อว่า ลักษณะที่แข็งและหนาแน่นของหยก เปรียบเสมือนความฉลาดและความกล้าหาญ นั่นเอง

หยกประเทศอะไรแพงที่สุด

หยกภายในประเทศจีน เป็นอัญมณีที่มีคุณค่ามาก และมีความเป็นมายาวนานตั้งแต่ในอดีต

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน

แหล่งอ้างอิง