แหล่งรวมเกมส์ชั้นนำ สล็อต คาสิโน บาคาร่า พร้อมระบบล้ำทันสมัย รวดเร็วทันใจ

การใช้ชีวิต นกอีมู แห่งทุ่งหญ้าออสเตรเลีย

การใช้ชีวิต นกอีมู

การใช้ชีวิต นกอีมู เป็นอะไรที่น่าสนใจมาก เพราะเจ้านกยักษ์ตัวนี้ มีนิสัยแปลก ไม่เหมือนใคร แม้จะบินไม่ได้ แต่ก็วิ่งเร็วสุดๆ แถมยังมีชีวิตประจำวัน ที่เต็มไปด้วย ความกระตือรือร้น และยังเป็น เจ้าของตำแหน่ง ‘นกที่ใหญ่ที่สุด’ ในออสเตรเลีย และเป็นนกที่ใหญ่ เป็นอันดับสอง ของโลกอีกด้วย

ลักษณะ และพฤติกรรมทั่วไป ของนกอีมู

นกอีมู เป็นนกที่บินไม่ได้ ที่มีขนาดใหญ่ เป็นอันดับสองของโลก รองจาก นกกระจอกเทศ สูงประมาณ 1.5-2 เมตร และหนักได้ถึง 60 กิโลกรัม แม้มันจะบินไม่ได้ แต่ทดแทนด้วยขาที่ยาว และแข็งแรง สามารถวิ่งได้เร็วถึง 48 กิโลเมตรต่อชั่วโมง 

นอกจากนี้ นกอีมูยังเป็นสัตว์ ที่ชอบสำรวจ ไม่อยู่นิ่ง และมักเดินทางไกล เพื่อหาอาหาร และน้ำ โดยไม่สนใจว่าทางข้างหน้า จะเป็นทะเลทราย หรือทุ่งหญ้ากว้างใหญ่

การจำแนกประเภททางวิทยาศาสตร์

  • ชื่อภาษาอังกฤษ : Emu
  • โดเมน : Eukaryota
  • อาณาจักร : Animalia
  • ไฟลัม : Chordata
  • ระดับ : Aves
  • Infraclass : Palaeognathae
  • คำสั่ง : Casuariiformes
  • ตระกูล : Casuariidae
  • ประเภท : Dromaius
  • สายพันธุ์ : D. novaehollandiae
  • ชื่อทวินาม : Dromaius novaehollandiae

 

ที่มา: “Emu” [1]

อาหารของนกอีมู

นกอีมูเป็นสัตว์กินพืชเป็นหลัก แต่ก็สามารถกินสัตว์เล็ก ๆ ได้เช่นกัน อาหารที่มันโปรดปราน ได้แก่

  • ใบไม้ ดอกไม้ และเมล็ดพืช
  • ผลไม้ป่า เช่น เบอร์รี่ และผลไม้พื้นเมือง ของออสเตรเลีย
  • แมลง ตัวหนอน และสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง ขนาดเล็ก
  • บางครั้งก็แอบกิน สัตว์เลื้อยคลานตัวเล็ก ๆ ด้วย

 

สิ่งที่น่าสนใจ คือนกอีมูไม่มีฟัน เวลากินอาหาร มันต้องกลืนก้อนหินเล็ก ๆ เข้าไปในกระเพาะช่วยบดอาหาร ให้ละเอียดก่อนย่อย พูดง่าย ๆ ก็คือ ก้อนหินเหล่านั้น ทำหน้าที่แทนฟันนั่นเอง [2]

การสืบพันธุ์ของนกอีมู

ในช่วงฤดูผสมพันธุ์ (ประมาณพฤษภาคม-สิงหาคม) นกอีมูตัวเมีย จะเป็นฝ่ายจีบตัวผู้ก่อน เมื่อตัวเมียเลือกคู่ได้แล้ว จะวางไข่ไว้ในรัง ประมาณ 5-15 ฟอง หลังจากนั้น ตัวเมียก็จากไป ทิ้งให้พ่อนกอีมู เป็นคนฟักไข่ต่อไป เพียงลำพัง

พ่อนกอีมูจะไม่กิน ไม่ดื่ม และแทบไม่ขยับตัว เป็นเวลา 8 สัปดาห์ เพื่อเฝ้าไข่ให้ปลอดภัยที่สุด และเมื่อลูกนก ฟักออกมาแล้ว พ่อก็ยังคงดูแลต่อไป อีกประมาณ 6 เดือน จนกว่าลูก ๆ จะสามารถออกไป ผจญโลกเองได้

พฤติกรรมนกอีมู ในการอยู่ร่วมกับมนุษย์

การใช้ชีวิต นกอีมู

นกอีมูค่อนข้างอยากรู้อยากเห็น และไม่ได้ก้าวร้าว กับมนุษย์มากนัก แต่มันสามารถ ป้องกันตัวเองได้ดี โดยเฉพาะถ้ารู้สึก ถูกคุกคาม ขามันแข็งแรงมาก และมีกรงเล็บแหลมคม ที่สามารถทำร้ายศัตรูได้

ในบางพื้นที่ ของออสเตรเลีย นกอีมูกลายเป็นปัญหา สำหรับเกษตรกร เพราะมันชอบบุกรุกไร่พืช แต่ในขณะเดียวกัน มันก็เป็นสัตว์ ที่มีบทบาทสำคัญ ในการกระจายเมล็ดพืช และรักษาสมดุล ของระบบนิเวศด้วย

การเอาตัวรอด ในธรรมชาติของนกอีมู

นกอีมูเป็นนักเอาตัวรอด ที่เก่งกาจ มันสามารถปรับตัว ให้เข้ากับสภาพแวดล้อม ที่แตกต่างกัน ตั้งแต่ทุ่งหญ้า ไปจนถึงทะเลทราย การที่มันสามารถ อยู่ได้นาน โดยไม่ต้องดื่มน้ำมาก เป็นข้อได้เปรียบ ที่สำคัญในพื้นที่แห้งแล้ง

นอกจากนี้ นกอีมูยังสามารถ ซ่อนตัวจากนักล่าได้ดี โดยใช้พุ่มไม้ เป็นที่กำบัง และเมื่อตกอยู่ในอันตราย มันสามารถวิ่งหนี ด้วยความเร็วสูง เพื่อเอาตัวรอด

 

ข้อเท็จจริงน่าสนใจ เกี่ยวกับนกอีมู

  • นกอีมูสามารถว่ายน้ำได้ดี แม้ตัวจะใหญ่ แต่มันสามารถ ข้ามแม่น้ำได้แบบสบาย ๆ
  • พวกมันสามารถ อยู่ได้เป็นสัปดาห์ โดยไม่ต้องดื่มน้ำ โดยอาศัยน้ำ จากอาหารที่กิน
  • เสียงของมัน คล้ายเสียงกลอง หรือเสียงเบสลึก ๆ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์มาก
  • ในอดีต เคยมี “สงครามนกอีมู” ในออสเตรเลียปี 1932 เมื่อมนุษย์พยายาม กำจัดนกอีมู ที่เข้ามาทำลายพืชผล แต่สุดท้ายมนุษย์ กลับแพ้ให้กับ เจ้าสัตว์ฉลาดตัวนี้ [3]

สรุป การใช้ชีวิต นกอีมู

สรุป นกอีมู เป็นสัตว์ที่มีชีวิตชีวา ฉลาด และแข็งแกร่งมาก ๆ มันเป็นนักเดินทาง ที่ไม่เคยหยุดนิ่ง วิ่งเร็ว ว่ายน้ำได้ และยังมีบทบาทสำคัญ ต่อระบบนิเวศ ในออสเตรเลียอีกด้วย ถ้าหากมีโอกาส ได้ไปออสเตรเลีย ลองไปดูนกอีมู ตัวจริงดูสักครั้ง แล้วจะทึ่ง ในความน่ารัก และความเป็นตัวของตัวเอง ของเจ้าสัตว์มหัศจรรย์นี้แน่นอน

นกอีมูเป็นอันตราย ต่อมนุษย์หรือไม่?

โดยทั่วไปแล้ว นกอีมูไม่ก้าวร้าวต่อมนุษย์ แต่หากรู้สึกถูกคุกคาม มันสามารถใช้กรงเล็บ และขาที่แข็งแรง โจมตีเพื่อป้องกันตัวเองได้ หากเจอนกอีมู ควรเว้นระยะห่างจะดีกว่า

นกอีมูสามารถเลี้ยง เป็นสัตว์เลี้ยงได้หรือไม่?

แม้ว่านกอีมู จะถูกเลี้ยงในฟาร์ม เพื่อผลิตเนื้อ และไข่ แต่โดยธรรมชาติแล้ว มันเป็นสัตว์ป่า ที่ต้องการพื้นที่กว้างขวาง ในการเคลื่อนไหว และอาจไม่เหมาะ สำหรับการเลี้ยง เป็นสัตว์เลี้ยงในบ้าน

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน

แหล่งอ้างอิง