
การใช้ชีวิต บ็อกเซอร์ สุนัขที่ฉลาด และมีพลังงานสูง
- เฌออัณณ์
- 77 views
การใช้ชีวิต บ็อกเซอร์ จัดเป็นสุนัข สายพันธุ์ขนาดกลาง ไปจนถึงขนาดใหญ่ มีลักษณะเด่น ที่ดูแล้วมีเสน่ห์คือ รูปร่างกำยำ มีกล้ามเนื้อเป็นมัดๆ จัดเป็นสุนัขล่าสัตว์ อีกหนึ่งพันธุ์ ที่ในสมัยก่อน เลี้ยงไว้เพื่อใช้ ล่าหมีกับวัว รวมถึงเหมาะสำหรับ เป็นสุนัขเฝ้าบ้าน ที่คอยปกป้อง และดูแลคุ้มกัน คนในครอบครัว จากคนแปลกหน้า
สุนัขสายพันธุ์บ็อกเซอร์ ถือว่าเป็นสุนัขที่ มีความอดทนสูง ซื่อสัตย์ และจงรักภักดี ต่อเจ้าของมาก ซึ่งโดยธรรมชาติแล้ว น้องสุนัขบ็อกเซอร์ ไม่ใช่สัตว์เลี้ยง ที่ก้าวร้าว หรือดุร้าย น้องเป็นสุนัขที่มี อุปนิสัยดีเป็นมิตร เฉลียวฉลาด แสนรู้ และมีความกล้าหาญ แต่ถ้าน้องสุนัข เกิดความเครียด หรือ หงุดหงิดมากๆ ก็ค่อนข้างดุมาก เหมือนกัน
ที่มา: บ็อกเซอร์ [1]
สุนัขบ็อกเซอร์ เป็นทายาท ของสายพันธุ์ ที่สูญพันธุ์อย่าง Bullenbaiser และสุนัข mastiff Bulldog และอาจจะมีสุนัข เกรทเดน หรือแม้แต่ สุนัขเทอร์เรียร์ ร่วมด้วย ซึ่งน้องสุนัขพันธุ์บ็อกเซอร์ ได้รับการพัฒนาสายพันธุ์ ในประเทศเยอรมัน ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 19
จัดว่าอยู่ในกลุ่ม ของสุนัขทำงาน ซึ่งสุนัขพันธุ์นี้ เป็นหนึ่งในสายพันธุ์แรก ที่ได้รับเลือก ให้เป็นสุนัขตำรวจ รวมถึงได้ถูกเลี้ยงไว้ ให้เป็นสุนัขนำทางด้วย นอกจากนี้ ยังได้รับเลือก ให้เป็นเพื่อนคู่หู เป็นสุนัขอารักขา และเป็นสุนัข ที่จงรักภักดี และรักเด็ก นั่นเอง
ที่มา: ข้อมูลเกี่ยวกับบ๊อกเซอร์ และลักษณะนิสัย [2]
สุนัขบ็อกเซอร์ เป็นสุนัขที่ที่ขึ้นชื่อ ในเรื่องความขี้เล่น และความเป็นมิตร ถือว่าเป็นสุนัข ที่เต็มไปด้วย ความร่าเริงแจ่มใส มีชีวิตชีวา และมีพลังเหลือเฟือ รวมถึงมีความกระตือรือร้น ในการใช้ชีวิตมาก ถ้าน้องหมาพันธุ์นี้ ได้รับการฝึกมาตั้งแต่ยังเล็ก น้องจะสามารถ กลายเป็นเพื่อนคู่ใจทุ่มเท และพร้อมจะอยู่ เคียงข้างคุณ ในทุกช่วงเวลา
การออกกำลังกาย : สุนัขพันธุ์บ็อกเซอร์ เป็นสุนัขที่มี พลังงานมาก ดังนั้น การออกกำลังกาย ถือเป็นสิ่งที่จำเป็น ซึ่งน้องหมา ต้องออกกำลังกาย วันละประมาณ 45 นาที หรือ 1 ชั่วโมงต่อวัน และต้องออกกำลังกาย ในสภาพอากาศ ที่ไม่ร้อนมาก หรือเย็นเกินไป เพราะน้องหมาบางตัว มีขนบาง ซึ่งอาจส่งผลให้ น้องหมาป่วยได้ [3]
การให้อาหาร : น้องหมาพันธุ์นี้ จะต้องได้รับอาหาร ในปริมาณอาหาร ที่เหมาะสม กับช่วงอายุวัย ซึ่งอาหารที่ให้ ต้องเป็นอาหาร ที่มีประโยชน์ และมีคุณภาพสูง ครบถ้วนตาม หลักโภชนาการ โดยเจ้าของ ควรแบ่งการให้อาหาร เป็นเวลา 2 มื้อต่อวัน รวมถึง หลีกเลี่ยงอาหาร ที่ทำให้ส่งผลเสีย ต่อสุขภาพ ของน้องหมาด้วย
ความสะอาด : การรักษา เรื่องความสะอาด เพราะถือว่า เป็นสิ่งที่สำคัญ เจ้าของควรอาบน้ำ ให้น้องหมาเดือนละ 1 ครั้ง หรือ อาบน้ำให้ทันที หลังจากที่น้องหมา ไปเล่นกลับมาแล้ว เนื้อตัวสกปรกมากๆ พร้อมกับแปรงขน ให้น้องหมาด้วย เพื่อขนที่ตายไปแล้ว จะได้หลุดร่วงไป และตัดเล็บให้น้องหมา ทุกครั้งเมื่อเล็บน้องยาว รวมถึง แปรงฟันให้น้องหมาด้วย
โรคข้อสะโพกเสื่อม : ถือว่าเป็นโรค ที่พบได้บ่อย ในน้องหมาสายพันธุ์นี้ ซึ่งโรคข้อสะโพกเสื่อม เป็นปัญหาสุขภาพ ที่สำคัญอย่างหนึ่ง และโรคนี้เกิดขึ้น เมื่อเนื้อเยื่อบางส่วน รอบข้อสะโพกคลายตัว จะส่งผลให้สะโพก เคลื่อนเข้าในข้อไม่ได้ จากนั้นจะทำให้ เกิดอาการปวด อักเสบ และในที่สุด ก็เกิดโรคข้ออักเสบ ตามมานั่นเอง
โรคลมบ้าหมู : เป็นโรคลมบ้าหมู ชนิดไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งโรคนี้ มักจะเกิดใน สุนัขพันธุ์บ็อกเซอร์ ที่อยู่ในช่วง อายุประมาณ 6 เดือน ไปจนถึง 6 ปีเป็นต้น และน้องหมา ที่ป่วยเป็นโรคนี้ จะมีอาการชัก เพราะเกิดจากกิจกรรม ที่ผิดปกติของสมอง
โรคผิวหนังอักเสบจากรอยพับ : ซึ่งเป็นโรค ที่เกิดจากรอยพับ ของผิวหนัง เพราะบริเวณรอยพับ ไม่ได้รับการไหลเวียน ของอากาศมากนัก จึงส่งผลให้น้องหมา ทำความสะอาด ได้ยากขึ้น ทำให้เกิดความชื้นสะสม กับแบคทีเรีย และติดเชื้อในที่สุด ซึ่งโรคนี้ จะแสดงอาการ ได้แก่ มีกลิ่นเหม็น และมีผื่นแดง ที่ผิวหนัง สามารถรักษาได้ ด้วยยาปฏิชีวนะ
ที่มา: Common health problems with Boxers [4]
การใช้ชีวิต บ็อกเซอร์ น้องเป็นสุนัข สายพันธุ์ขนาดกลาง ไปจนถึงขนาดใหญ่ ที่มีรูปร่างดูดี แลดูสวย สง่างาม และเป็นสุนัขที่ มีนิสัยดี เป็นมิตรต่อผู้อื่น รวมถึงสามารถ เป็นสุนัขเฝ้าบ้าน ที่ยอดเยี่ยม ค่อยสอดส่อง ดูแล และคุ้มกัน ความปลอดภัย ให้กับคนในครอบครัว อีกด้วย
น้องสุนัขสายพันธุ์นี้ ไม่ชอบให้ถูกทิ้งไว้ ในบ้านเพียงคนเดียว เป็นเวลานาน หรือเป็นประจำ เพราะน้องอาจ จะเกิดอากาศซึมได้ รวมถึง น้องเป็นสุนัขที่ ไม่สามารถทนต่อ สภาพอากาศ ที่ร้อนมากได้
น้องสุนัขพันธุ์บ็อกเซอร์ เป็นน้องหมาที่น่ารักมาก น้องมักติดตาม เจ้าของไปทุกที่ ชอบอยู่กับเจ้าของ เป็นน้องหมาขี้เล่น ฉลาด และแสนรู้ ส่วนเรื่อง ความซื่อสัตย์ ไม่ต้องพูดถึงเลย เพราะน้องรัก และซื่อสัตย์ กับเจ้าของที่สุด