ตำนาน แมวสองหาง วิญญาณแมวปีศาจในญี่ปุ่น
- Harry P
- 96 views
ตำนาน แมวสองหาง ในโลกของตำนานพื้นบ้านญี่ปุ่น มีเรื่องเล่ามากมาย เกี่ยวกับสัตว์ที่แปรเปลี่ยนเป็นวิญญาณ หรือปีศาจ และหนึ่งในนั้นคือ “เนโกะมาตะ” (猫又, Nekomata) หรือที่รู้จักกันในนาม แมวสองหาง สัตว์อาถรรพ์ ที่มีพลังลึกลับ และมักจะถูกกล่าวถึงในเชิงลี้ลับ
บางเรื่องเล่าว่าเนโกะมาตะ เป็นแมวที่มีชีวิตอยู่ยาวนาน จนได้รับพลังเหนือธรรมชาติ บางเรื่องเล่าว่าพวกมัน เป็นสิ่งมีชีวิต ที่สามารถควบคุมดวงวิญญาณได้ และบางตำนาน ก็กล่าวว่าแมวสองหาง เป็นผู้ที่มาลงโทษมนุษย์ ที่ปฏิบัติต่อสัตว์ไม่ดี [1]
แต่เรื่องราวของเนโกะมาตะ ไม่ได้มีแค่ด้านเดียวเท่านั้น ในตำนานต่างๆของญี่ปุ่น บางครั้งพวกมันก็ถูกมองว่าเป็น สัตว์ศักดิ์สิทธิ์ บางครั้งก็เป็นปีศาจร้าย ที่คอยหลอกหลอนผู้คน และบางครั้งพวกมัน ก็เป็นเพียงวิญญาณแมว ที่โหยหาความรัก และความอบอุ่นจากมนุษย์
ตำนานของเนโกะมาตะ มีรากฐานมาจาก ยุคโบราณของญี่ปุ่น ตั้งแต่ช่วงยุคเฮอัน (794–1185) เป็นต้นมา มีการบันทึกเกี่ยวกับแมว ที่มีพฤติกรรมแปลกประหลาด บ้างก็กล่าวว่าแมวที่มีอายุยืนเกินไป จะกลายเป็นสิ่งมีชีวิต ที่เหนือธรรมชาติ และเมื่อเวลาผ่านไป ความเชื่อนี้ก็ถูกแต่งเติม ให้น่ากลัวมากขึ้น
ในช่วงยุคคามาคุระ (1185–1333) และยุคมุโรมาจิ (1336–1573) มีบันทึกเกี่ยวกับแมว ที่เดินสองขา และสามารถพูดภาษามนุษย์ได้ พวกมันถูกเชื่อว่า เป็นเนโกะมาตะ แมวที่ได้รับพลังพิเศษ จากการที่มีอายุยืนยาว เรื่องเล่าที่น่าสะพรึงกลัวบางเรื่อง ได้กล่าวว่าเนโกะมาตะ สามารถควบคุมศพ ให้ฟื้นคืนชีพได้
ในยุคเอโดะ (1603–1868) ตำนานของเนโกะมาตะ กลายเป็นที่รู้จัก อย่างแพร่หลายมากขึ้น ภาพวาดของพวกมัน ปรากฏอยู่ในอุกิโยะเอะ (ภาพพิมพ์ไม้) และเรื่องราวเกี่ยวกับแมวสองหาง ถูกนำไปแต่งเป็นนิทาน และบทละคร หลายเรื่องราวเล่าว่าเนโกะมาตะ มักจะแปลงร่างเป็นหญิงสาวสวย ที่มีเสน่ห์ลึกลับ
ลักษณะของเนโกะมาตะ จะแตกต่างกันไปตามตำนาน แต่โดยทั่วไปแล้ว พวกมันมีลักษณะที่คล้ายกับแมวทั่วไป เพียงแต่จะมีหางที่แตกออก เป็นสองแฉก ซึ่งแมวที่มีหางแตกเป็นสองแฉก มักจะถูกมองว่า เป็นแมวที่มีพลังวิเศษ บางตำนานกล่าวว่าเนโกะมาตะ มีขนาดใหญ่กว่าปกติ
บางครั้งอาจมีขนาดเทียบเท่ามนุษย์ และพวกมันสามารถใช้เวทมนตร์ได้ บางตัวสามารถปล่อยลูกไฟได้ หรือการใช้พลังจิตควบคุมสิ่งของ นอกจากนี้ยังมีเรื่องเล่า ที่ว่าเนโกะมาตะ สามารถสร้างภาพลวงตา ทำให้มนุษย์เห็นสิ่งที่ไม่มีอยู่จริง หรือแม้แต่แปลงร่างเป็นมนุษย์ เพื่อใช้ชีวิตปะปนกับคนทั่วไป [2]
พลังของเนโกะมาตะนั้น มีมากมาย และแตกต่างกันไปในแต่ละตำนาน แต่มักจะมีองค์ประกอบหลัก ดังต่อไปนี้
หนึ่งในเรื่องเล่าที่มีชื่อเสียง เกี่ยวกับเนโกะมาตะ มาจากแถบภูเขา ทางตอนเหนือของญี่ปุ่น มีเรื่องเล่าว่าในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง มีหญิงชราที่เลี้ยงแมวของเธอ มาตั้งแต่ยังเล็ก เมื่อเวลาผ่านไป แมวตัวนั้นก็เติบโตขึ้น และมีหางแตกเป็นสองแฉก มันเริ่มแสดงพฤติกรรมประหลาด และหายตัวไปในตอนกลางคืน
ไม่นานนัก คนในหมู่บ้านก็เริ่มพบกับ เหตุการณ์ที่แปลกประหลาด บางคนได้ยินเสียงร้องไห้ ของหญิงสาวจากป่าลึก และบางคนเห็นเงาลึกลับ เดินผ่านบ้านของตน ต่อมามีการค้นพบว่า หญิงชราผู้เป็นเจ้าของแมว ได้หายตัวไป และเมื่อชาวบ้าน เข้าไปในบ้านของเธอ
พวกเขาก็พบแค่เพียงรอยเท้า ของแมวขนาดใหญ่ ที่นำไปสู่ป่าลึก หลังจากนั้นหมู่บ้านก็ถูกหลอกหลอน โดยวิญญาณแปลกประหลาด และไม่เคยมีใคร ได้พบหญิงชราผู้นั้นอีกเลย
ปัจจุบันตำนานของเนโกะมาตะ ยังคงปรากฏอยู่ในวรรณกรรม การ์ตูน และเกมต่างๆ เช่น “Nekomata” ในเกมตระกูล Shin Megami Tensei และ Persona, “Kirara” ใน Genshin Impact, หรือ “Nekomata Okayu” ในกลุ่ม VTuber ของ Hololive [3]
นอกจากนี้ยังมีการนำไปใช้ในนิยาย และภาพยนตร์ที่เกี่ยวกับเรื่องลึกลับอีกด้วย
สรุป ตำนาน แมวสองหาง หรือเนโกะมาตะ เป็นหนึ่งในเรื่องเล่าที่มีเสน่ห์ และไม่ว่าจะถูกมองเป็นปีศาจร้าย หรือเป็นวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ พวกมันก็คือส่วนหนึ่ง ของวัฒนธรรมญี่ปุ่น ที่เป็นเครื่องเตือนใจ ให้เราปฏิบัติต่อสิ่งมีชีวิตรอบตัว ด้วยความเมตตา เพราะไม่แน่ว่าแมวของเรา ก็อาจกลายเป็นเนโกะมาตะได้
ตามตำนานของญี่ปุ่น แมวที่มีอายุยืนยาวเกิน 10-20 ปี จะได้รับพลังเหนือธรรมชาติ และกลายเป็นเนโกะมาตะ หางของมันจะแตกออกเป็นสองแฉก และมันจะได้รับพลังเวทมนตร์ และถ้าหากแมวถูกทารุณกรรม หรือเสียชีวิตอย่างโหดร้าย มันอาจกลายเป็นเนโกะมาตะเพื่อกลับมาแก้แค้น
ในความเชื่อโบราณของญี่ปุ่น คนมักจะป้องกัน ไม่ให้แมวกลายเป็นเนโกะมาตะโดย ตัดหางแมวตั้งแต่ยังเล็ก เพื่อป้องกัน ไม่ให้หางแยกเป็นสองแฉก นอกจากนี้ คนโบราณยังเชื่อว่า การดูแลแมวให้ดี จะช่วยลดโอกาส ที่แมวจะกลายเป็นปีศาจ เพื่อมาล้างแค้น
