
ต้นกำเนิด เทพเจ้า แห่งโอลิมปัส ในตำนานกรีก
- J. Kanji
- 14 views
ต้นกำเนิด เทพเจ้า แห่งโอลิมปัส คือเรื่องราวที่น่าหลงใหล มาแต่โบราณ ใครๆ ก็อยากรู้ว่าพวกเทพในตำนานกรีก ที่เราได้ยินชื่อกันบ่อยๆ อย่าง ซุส อะพอลโล หรือ อาเทมิส นั้นมาจากไหน พวกเขาเกิดยังไง และทำไมถึงมาอยู่บนยอดเขาโอลิมปัส บทความนี้จะพาย้อนกลับไป สู่จุดเริ่มต้นให้เข้าใจกันแบบง่ายๆ
ก่อนที่จะมีอะไรทั้งนั้น มีแค่ความว่างเปล่าที่เรียกว่า “เคออส” (Chaos) ความว่างเปล่านี้เอง ที่ได้ถือกำเนิดเทพเจ้าขึ้นมา นั้นก็คือ “ไกอา” หรือแม่ธรณี ตามมาด้วย “ทาร์ทารัส” โลกใต้พิภพ และ “อีรอส” เทพแห่งความรัก ไกอาให้กำเนิด “ยูเรนัส” หรือท้องฟ้า
แล้วทั้งคู่ก็มีลูกด้วยกัน เป็นเทพกลุ่มแรก ที่เรียกว่า “ไททัน” มีทั้งหมด 12 องค์ ได้แก่ โอเชียนัส โคอุส ไครอุส ไฮเพอเรียน ไอเอเพทุส เทีย เรีย ธีมิส นีโมซีเน ฟีบี เทธีส และโครนัส รวมถึงยักษ์ตาเดียว “ไซคลอปส์” และเหล่ายักษ์ร้อยมือ “เฮกาตอนไครส์” อีกด้วย แต่รู้มั้ย ยูเรนัสเขากลัวว่าลูกๆ จะแย่งอำนาจ
เลยขังพวกเขาไว้ในใต้พิภพ จนไกอาทนไม่ไหว ให้ลูกชายคนเล็กชื่อ “โครนัส” แก้แค้นพ่อตัวเอง ไกอาจึงมอบเคียวพิเศษ ให้โครนัส เพื่อใช้ในการลงมือ วันที่เหตุการณ์เกิดขึ้น เลือดของยูเรนัสหยดลงสู่ทะเล เกิดเป็นฟองคลื่น และกำเนิดเทพีแห่งความงาม “อะโฟรไดท์” ขึ้นมา [1]
โครนัสทำตามที่แม่สั่ง ใช้เคียวตัดอวัยวะของพ่อจนพิการ แล้วขึ้นเป็นผู้ปกครองแทน เขาแต่งงานกับน้องสาวตัวเองชื่อ “รีอา” แต่ก็กลัวโดนลูกล้มอำนาจ ตามคำทำนาย หรือสาปแช่ง เหมือนที่ตัวเองทำกับพ่อ
เรื่องจึงซ้ำรอยเดิม โครนัสกลืนลูกๆ เข้าไปในท้องทุกคนที่เกิดมา แต่รีอาไม่ยอม พอมีลูกคนสุดท้องชื่อ “ซุส” เธอเลยแอบเอาก้อนหิน ห่อผ้าให้สามีกลืนแทน แล้วส่งซุสไปซ่อนตัวที่เกาะครีต บางตำนานบอกว่า ให้พวกนางไม้ หรือนิมฟ์เลี้ยงดูจนโต [2]
ในช่วงยุคของโครนัส โลกอยู่ในช่วงที่เรียกว่า “ยุคทอง” มนุษย์อยู่อย่างมีความสุข ไม่เจ็บป่วย ไม่แก่ชรา ไม่ต้องทำงานหนัก แผ่นดินอุดมสมบูรณ์ แต่ความสงบสุขนี้ก็อยู่ได้ไม่นาน เพราะซุสกำลังเติบโตขึ้นทุกวัน และรู้ความจริงเกี่ยวกับชะตากรรม ของพี่น้องตัวเอง
พอซุสโตขึ้น ก็กลับมาแก้แค้นพ่อ ใช้ยาขนานพิเศษที่ได้จากเทพีเมติส บังคับให้โครนัสอาเจียนพี่น้อง ที่ถูกกลืนออกมา พวกเขาทั้งหมดนี่แหละ คือเทพรุ่นแรกของโอลิมปัส ได้แก่ เฮสเทีย ดีมิเทอร์ เฮรา ฮาเดส และโพไซดอน
แต่พวกเขาต้องสู้กับโครนัส และไททันอีกหลายองค์ก่อน สงครามนี้เรียกว่า “ไทเทนโนมาคี” กินเวลานานถึง 10 ปี ซุสปล่อยยักษ์ตาเดียว และยักษ์ร้อยมือ ที่พ่อเขาขังไว้ ให้มาช่วยสู้ สุดท้ายเทพรุ่นใหม่ก็ชนะ ซุสขังพวกไททัน ลงไปในทาร์ทารัส
การต่อสู้นี้รุนแรงมาก ภูเขาถูกถอนขึ้น และขว้างใส่กัน ทะเลเดือดพล่าน แผ่นดินสั่นสะเทือน ฟ้าร้องฟ้าผ่า ไซคลอปส์สร้างอาวุธพิเศษให้ซุส คือสายฟ้า ให้โพไซดอนคือตรีศูล และให้ฮาเดสคือหมวกล่องหน เครื่องมือเหล่านี้มีส่วนสำคัญ ที่ทำให้พวกเขาชนะสงคราม
หลังชนะสงคราม พี่น้องสามคนคือ ซุส โพไซดอน และฮาเดส ก็จับฉลากแบ่งอาณาจักร
ส่วนพี่สาวทั้งสาม ก็มีหน้าที่สำคัญไม่แพ้กัน เฮรา เทพีแห่งการสมรส เทพีการเกษตร ดีมิเทอร์ ดูแลพืชพรรณและการเกษตร เฮสเทียดูแลเรื่องบ้านเรือน และการก่อไฟ ภายใต้การปกครองของซุส ทวยเทพโอลิมปัส ตั้งพระราชวังอยู่บนยอดเขาโอลิมปัส ซึ่งสูงที่สุดในกรีซ
ซุสแต่งงานกับเฮรา แต่ก็มีความสัมพันธ์กับสาวอื่นๆ อีกเยอะแยะ ทั้งเทพีและมนุษย์ มีลูกเต็มไปหมด ที่มีชื่อเสียงก็เช่น
เรียกได้ว่าซุส ชอบมีกิ๊กมากเป็นพิเศษ จนเฮราหึงหวง และคอยแกล้งคนที่ซุส ไปยุ่งด้วยอยู่เรื่อย ซุสจึงมักแปลงร่างเป็นสัตว์ หรือสิ่งของต่างๆ เพื่อปิดบังความสัมพันธ์จากเฮรา เช่น แปลงเป็นหงส์ เพื่อเข้าหาเลดา แปลงเป็นวัว เพื่อพาเอวโรปาไปเกาะครีต หรือแปลงเป็นฝนทองคำ เพื่อเข้าหาดาเนเอ
เทพกลุ่มหลักบนเขาโอลิมปัส มีทั้งหมด 12 องค์ บางตำนานอาจเปลี่ยนไปบ้าง แต่โดยทั่วไปประกอบด้วย
มีเยอะถึงขึ้นมี ศึกสายเลือด แห่งโอลิมปัส กันเลยทีเดียว แต่ละองค์มีหน้าที่ดูแลเรื่องต่างๆ ในโลกมนุษย์ บางทีก็ช่วยเหลือ บางทีก็แกล้งมนุษย์ ขึ้นอยู่กับอารมณ์และความพอใจ มนุษย์จึงมี การบูชา เทพเจ้ากรีก ด้วยเครื่องบูชา และวัตถุบูชาต่างๆ เพื่อขอให้เทพช่วยเหลือ หรือไม่ลงโทษพวกเขา [3]
สรุป เรื่องราวของเทพเจ้า นั้นเต็มไปด้วยเรื่องราวมากมาย โดยสะท้อนให้เห็นว่า มนุษย์โบราณ พยายามอธิบาย ปรากฏการณ์ธรรมชาติ และพฤติกรรมมนุษย์ ผ่านเรื่องเล่าเกี่ยวกับเทพเจ้า เรื่องราวของเทพเจ้า จึงไม่ใช่แค่ตำนานโบราณ แต่เป็นมรดกทางวัฒนธรรม ที่ยังสร้างแรงบันดาลใจ ให้กับผู้คนมาจนถึงทุกวันนี้
ซุสได้เป็นเทพสูงสุด เพราะเป็นผู้นำในการต่อสู้ กับโครนัส และเหล่าไททัน หลังจากชนะสงคราม เขาและพี่น้องได้จับฉลาก แบ่งอาณาจักรกัน แต่ในฐานะผู้นำการต่อสู้ และผู้ปกครองฟ้า ซุสจึงมีอำนาจเหนือเทพองค์อื่นๆ และเป็นผู้ตัดสินใจสูงสุด ในการประชุมเทพบนเขาโอลิมปัส
ชาวกรีกโบราณ สร้างเทพในจินตนาการ ให้สะท้อนสังคมมนุษย์ พวกเขาให้เทพมีครอบครัว มีการแต่งงาน มีความรัก และความขัดแย้ง เพื่ออธิบายปรากฏการณ์ธรรมชาติ และเหตุการณ์ต่างๆ ในโลก เทพกรีกจึงมีทั้งข้อดี และข้อเสีย ซึ่งทำให้มนุษย์เข้าใจ และเชื่อมโยงกับพวกเขา ได้ง่ายขึ้น