
นักบาสอาชีพ ในไทย กับคำถามว่าเลี้ยงชีวิตได้จริงไหม
- Harry P
- 64 views
นักบาสอาชีพ ในไทย กับคำถามที่อาจผุดขึ้นมา ในใจใครหลายคน ทุกครั้งที่เห็นนักกีฬา เดินลงสนาม พวกเขาดูเท่ มั่นใจ และเต็มไปด้วยพลัง แต่เบื้องหลังนั้น มีค่าเหนื่อยพอกินหรือไม่ มีอนาคตรองรับ หลังเลิกเล่นหรือเปล่า และเราจะพาคุณลงลึก ถึงชีวิตจริงของนักบาสไทย ที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน
นักบาสอาชีพ ในไทย เมื่อปรากฏอยู่บนสนาม พร้อมเสียงเชียร์ ในตอนแข่งขัน หลายคนอาจนึกภาพ ว่าพวกเขา คงใช้ชีวิตแบบซูเปอร์สตาร์ มีรายได้มั่นคง และเต็มไปด้วยโอกาส แต่เมื่อมองลึกลงไป เบื้องหลังของนักบาสอาชีพ ในประเทศไทยนั้น ไม่ได้โรย ด้วยกลีบกุหลาบอย่างที่คิด
แม้ว่าจะมีลีกแข่งขัน ที่เป็นระบบมากขึ้น ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เช่น Thailand Basketball League (TBL), Thailand Professional Basketball League (TPBL) และการมีสโมสร ระดับอาชีพอย่าง “ไฮเทค” หรือ “โมโนแวมไพร์” แต่คำถามใหญ่ยังคงอยู่ “อาชีพนักบาสในไทย เลี้ยงชีพได้จริงหรือ” [1]
นักบาสอาชีพ ในไทย มีค่าตอบแทน ที่หลากหลาย ขึ้นอยู่กับชื่อเสียง ประสบการณ์ ตำแหน่ง และสังกัดของแต่ละคน โดยจะสามารถแบ่งออก ได้เป็น 3 กลุ่มหลัก
นอกจากค่าเหนื่อยรายเดือน รายได้เสริมที่นักบาสได้รับ มักมาจากเงินรางวัลการแข่งขัน การขายสินค้า (เช่นเสื้อแข่ง) หรือสปอนเซอร์ส่วนตัว ซึ่งมีเพียงไม่กี่คน ที่สามารถเข้าถึงช่องทางเหล่านี้ ได้อย่างจริงจัง
เพื่อความมั่นคง นักบาสหลายคน ต้องทำงานเสริมควบคู่ไปด้วย เพราะอาชีพนักกีฬาในไทย ค่อนข้างมีอายุในช่วงสั้นๆ และไม่มีเงินบำนาญ หรือสวัสดิการ ในระยะยาวที่ชัดเจน
อาชีพเสริมยอดนิยมของนักบาสไทย ได้แก่
บางคนลงทุนศึกษาเพิ่มเติม เพื่อวางแผนเปลี่ยนอาชีพ หลังเลิกเล่น เช่น เรียนบริหารธุรกิจ, วิทยาศาสตร์การกีฬา หรือแม้แต่ศึกษา ด้านอสังหาริมทรัพย์
ในประเทศไทย ระบบสนับสนุน หลังเลิกเล่นกีฬาอย่างถาวร ยังไม่ชัดเจนมากนัก เมื่อถึงจุดที่ต้องเลิกเล่น ไม่ว่าจะด้วยวัย หรืออาการบาดเจ็บ นักบาสจำนวนมาก ต้องเผชิญกับภาวะ “หลุดวงโคจร” โดยไม่มีการรองรับรายได้ แบบมั่นคง
ปัญหาที่มักพบบ่อย
แต่ในนักกีฬาบางราย ที่มีการวางแผนดี เช่น หมั่นออมเงินตั้งแต่ต้น, ใช้ชื่อเสียงสร้างธุรกิจเล็กๆ หรือเข้าสู่เส้นทางโค้ช ผู้จัดการทีม ก็สามารถประคับประคองชีวิตต่อไป ได้อย่างมั่นคง
แม้อาชีพนักบาสในไทย ยังต้องเผชิญกับความท้าทาย ทั้งเรื่องรายได้ ความมั่นคง และชีวิตหลังเลิกเล่นกีฬา แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา วงการบาสเกตบอลไทย เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงที่น่าจับตา ลีกอาชีพอย่าง TBL และ TPBL จัดแข่งขันต่อเนื่อง เปิดพื้นที่ให้นักกีฬา ได้แสดงฝีมือ และมีค่าตอบแทน ที่ชัดเจนขึ้น [3]
สโมสรใหญ่ ก็เริ่มให้ความสำคัญ กับระบบเยาวชน มีการคัดเลือก และค้นหา บาสไทย ในเงามืด หันมาให้ความสนใจมากขึ้น เพื่อฝึกฝนตั้งแต่ต้นน้ำ สร้างแรงบันดาลใจ ให้เด็กๆเชื่อว่า การเป็นนักบาสอาชีพ ไม่ใช่แค่ฝันที่ไกลเกินเอื้อมอีกต่อไป
นักกีฬาไทยเริ่มมีโอกาสออกไปแข่งขัน หรือฝึกซ้อม ในต่างประเทศมากขึ้น เช่นกรณีของ นักกีฬาบาส “โอม – ชนาธิป จักรวาฬ” ที่ได้แสดงฝีมือ ในลีกต่างแดน กลายเป็นแรงบันดาลใจ ให้คนรุ่นใหม่เห็น ว่าเส้นทางสากลนั้น เป็นไปได้จริง
ในขณะเดียวกัน โซเชียลมีเดีย ก็กลายเป็นเครื่องมือสำคัญ นักกีฬาหลายคน เริ่มสร้างรายได้เสริม จากการเป็นอินฟลูเอนเซอร์ รีวิวสินค้า หรือเปิดคอร์สออนไลน์ นี่คือการปรับตัว เพื่อความอยู่รอด ในยุคที่ไม่สามารถพึ่งรายได้ จากสนามเพียงอย่างเดียว
แม้ยังต้องพัฒนาหลายด้าน โดยเฉพาะสวัสดิการ หลังแขวนรองเท้า แต่หากกระแสนี้ ยังคงเติบโต และได้รับแรงสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง วงการบาสไทยก็มีโอกาสเปลี่ยน จากพื้นที่ความฝัน มาเป็นอาชีพที่มั่นคง ในโลกความจริงได้ในไม่ช้า
ผลก็คือ “ได้” สำหรับบางคน แต่ไม่ง่ายสำหรับอีกหลายคน เพราะสุดท้ายแล้ว “ความสามารถ” อาจเป็นสิ่งที่เริ่มต้นได้ด้วยพรสวรรค์ แต่ “ความมั่นคง” ต้องเริ่มต้นจากการวางแผน และลงมือทำ
ปัญหาหลักคือ “ความไม่มั่นคง” ทั้งในระหว่างการเล่น และหลังแขวนรองเท้า นักกีฬาจำนวนมาก ไม่มีระบบรองรับเมื่อเลิกเล่น ไม่ว่าจะเป็นเงินบำนาญ สวัสดิการ หรือโอกาสทำงานในวงการต่อ ส่งผลให้หลายคน หลุดออกจากระบบกีฬาอย่างสิ้นเชิง และเผชิญกับปัญหาด้านการเงิน หรือสุขภาพจิต
การจัดลีกอาชีพอย่างต่อเนื่อง (TBL, TPBL) การสร้างระบบเยาวชนภายในสโมสร และการเปิดโอกาสให้นักกีฬา ได้ไปแข่งขันต่างประเทศ รวมถึงการใช้โซเชียลมีเดีย เป็นช่องทางสร้างรายได้เสริม ทั้งหมดนี้สะท้อนว่าระบบกำลัง “ขยับตัว” แม้จะยังไม่มั่นคงเต็มร้อย แต่ก็มีทิศทางที่ดีขึ้น