
ประวัติ ไทยหลังอาน สุนัขเก่าแก่ สายพันธุ์ไทยแท้
- เฌออัณณ์
- 89 views
ประวัติ ไทยหลังอาน เป็นอีกหนึ่งสุนัขสายพันธุ์ไทย ที่อยู่คู่กับคนไทยมาเนิ่นนาน ตั้งแต่สมัยอดีตกาล จนมาถึงปัจจุบัน ซึ่งคนไทยโดยส่วนใหญ่ จะคุ้นเคยและรู้จัก กับสุนัขพันธุ์นี้กันดี ซึ่งสุนัขไทยหลังอาน ถือเป็นสุนัขสายพันธุ์ พื้นเมืองเก่าแก่ของไทย ที่มีจุดเด่นประจำตัวคือ มีขนขึ้นในแนวย้อน กับแนวขนปกติ อยู่บนหลังของสุนัข มองดูแล้วสวยสะดุดตา
ไทยหลังอาน น้องเป็นสุนัขพื้นเมือง สายพันธุ์ขนาดกลาง มีอุปนิสัยรักอิสระ เชื่อมั่นในตัวเอง มีความกระตือรือร้น มีความสุขุม เจ้าระเบียบ ซื่อสัตย์ และจงรักภักดี ต่อเจ้าของมาก รวมถึงเป็นสุนัข ที่มักจะไม่ชอบ หรือ อดทนต่อการ โดนตำหนิอย่างรุนแรง เพราะจะทำให้น้องสุนัขสายพันธุ์นี้ เกิดอาการเครียด และแสดงพฤติกรรม ที่ก้าวร้าวออกมาได้
ที่มา: ไทยหลังอาน [1]
สุนัขไทยหลังอาน มีประวัติ การบันทึกครั้งแรก ที่ประเทศไทย เมื่อประมาณ 350 ปีที่แล้ว และสุนัขพันธุ์นี้ อาจมีความเกี่ยวข้อง ในการพัฒนาสายพันธุ์ Rhodesiam ridgeback ก็เป็นไปได้ ซึ่งสุนัขไทยหลังอาน ในสมัยก่อน จะถูกนำมาเลี้ยง เพื่อเป็นสุนัขเฝ้าระวัง และคุ้มกันความปลอดภัย โดยส่วนใหญ่แล้ว มักจะพบสุนัขพันธุ์นี้ ทางตะวันออก ของประเทศไทย จะพบได้ตามเกาะ Phu Quoc เป็นต้น [2]
ไทยหลังอาน เป็นสุนัขพันธุ์ไทย เช่นเดียวกันกับ สุนัขสายพันธุ์ บางแก้ว และสุนัขทั้งสองสายพันธุ์นี้ จะมีอุปนิสัยที่คล้ายกัน น้องสุนัขจะมีความฉลาด กล้าหาญ มีความขี้หวง และขึ้นชื่อในเรื่องของความดุ รวมถึงมีสัญชาตญาณ ในความเป็นนักล่า เหมือนกันทั้งคู่ ซึ่งสุนัขสายพันธุ์ไทยหลังอาน เหมาะสำหรับเลี้ยงไว้ เพื่อค่อยช่วยระวัง ในเรื่องความปลอดภัย ให้กับคนครอบครัว
การออกกำลังกาย : น้องเป็นสุนัข ที่มีความต้องการ ในการฝึกฝน เพื่อให้อยู่ในคำสั่ง และเป็นสุนัข ที่มีพลังงานล้นเหลือ ซึ่งเจ้าของ หรือ ผู้เลี้ยงดู ควรพาน้องหมา ออกกำลังกายทุกวัน โดยออกกำลังกาย อย่างน้อย 30 นาที หรือ 1 ชั่วโมงต่อวัน เนื่องจากสุนัขพันธุ์นี้ จำเป็นต้องปลดปล่อย พลังงานเยอะๆ เพราะหากน้องไม่ได้ปลดปล่อยพลังงาน น้องหมาอาจจะเกิด อาการเบื่อจนก้าวร้าว และทำลายข้าวของ เครื่องใช้ต่างๆ ภายในบ้านได้ [3]
ความสะอาด : การดูแลรักษาความสะอาดถือว่า เป็นสิ่งที่สำคัญมากเช่นกัน โดยปกติแล้วน้องสุนัขสายพันธุ์นี้ จะดูแลเรื่องความสะอาด ค่อนข้างง่าย เพราะขนน้องหมาสั้น ไม่จำเป็นต้องแปรงขน หรือ กังวลเรื่องขนจะพันกัน และใช้เวลาในการเป่า หรือ เช็ดขนไม่นาน ซึ่งการอาบน้ำ ไม่จำเป็นต้องอาบน้ำบ่อย แค่อาบน้ำเดือนละ 1-2 ครั้งต่อเดือน ก็ถือว่าเพียงพอแล้ว เว้นแต่ว่าน้องจะไปเล่น แล้วตัวเปียกกลับมา หรือ เนื้อตัวสกปรกมากๆ ในกรณีนี้ให้รีบอาบน้ำให้ทันทีเลย รวมถึงตัดเล็บให้น้องหมา กับดูแลช่องปาก ด้วยการแปรงฟัน อย่างเป็นประจำด้วย
อาหารและโภชนาการ : สุนัขสายพันธุ์นี้ จะค่อนข้างใช้พลังงานเยอะ ดังนั้นการให้อาหาร ที่มีประโยชน์ มีความเหมาะสม และเพียงพอ ตามหลักโภชนาการ ถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญ ซึ่งการให้อาหารเม็ด สำหรับน้องหมาสายพันธุ์นี้ ถือเป็นสิ่งที่ดี เพราะนอกจากน้องหมา จะได้รับสารอาหารที่ดีต่อร่างกายแล้ว น้องหมายังมีช่องปาก และหันที่แข็งแรง อีกด้วย
การเลี้ยงดูสุนัขบางแก้ว สิ่งที่ผู้เลี้ยง หรือ เจ้าของจะต้องระวัง และให้ความใส่ใจอย่างสม่ำเสมอ อย่าปล่อยปละละเลยเด็ดขาด คือปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพ ของน้องสุนัข เพราะสุนัขทุกตัว มีโอกาสที่จะเสี่ยงต่อการ เป็นโรคต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย ดังนั้นเจ้าของ จะต้องดูแล และใส่ใจตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อป้องกันเบื้องต้น โดยโรคที่ควรระวัง เกี่ยวกับน้องหมาสายพันธุ์นี้ จะมีดังต่อไปนี้
โรคผิวหนัง : เนื่องจากน้องสุนัขไทยหลังอาน มีขนสั้นเกรียน และมีผิวหนังบาง จึงเสี่ยงต่อการ เกิดอาการแพ้ จากการสัมผัสวัตถุ หรือสารเคมีต่างๆ ได้ง่าย ได้แก่ พื้นปูนซีเมนต์ หรือผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น แชมพู รวมถึงถ้าอยู่ในสภาพอากาศร้อนชื้น สิ่งที่ต้องระวัง เป็นพิเศษคือ แมลงต่างๆ เช่น เห็บ กับ หมัด ซึ่งแมลงพวกนี้ เป็นสาเหตุหลัก ของการเกิดโรค พยาธิเม็ดเลือด ดังนั้นเจ้าของ ควรพาน้องหมา ไปฉีดวัคซีนป้องกันไว้
โรคอื่นๆ : น้องสุนัขพันธุ์นี้ มีแนวโน้มเป็นโรคอื่นๆ อีกหลายโรค ได้แก่ เช่น โรคติดเชื้อในหู โรคอ้วน โรคกระดูก สะโพกเคลื่อน โรคท้องอืด และ กระเพาะขยาย มีสาเหตุเนื่องจาก มีอากาศสะสม อยู่มากกว่าปกติ ซึ่งโรคนี้ถือว่าอันตรายมาก เพราะมีความรุนแรง ถึงขั้นเสียชีวิตได้ ดังนั้น ควรพาน้องหมา ไปตรวจสุขภาพเป็นประจำ และดูแลใส่ใจน้องหมา พร้อมกับสังเกตดูอาการ ถ้าหากพบอาการผิดปกติใดๆ ให้รีบพาน้องหมา ไปพบแพทย์โดยทันที เพื่อความปลอดภัยต่อน้องหมาของคุณ
ที่มา: สุนัขพันธุ์ไทย (หลังอาน) [4]
สรุป ประวัติ ไทยหลังอาน น้องเป็นสุนัขสายพันธุ์ไทย อีกหนึ่งสายพันธุ์ ที่ได้รับความนิยม ในการเลี้ยงดู เพื่อเป็นเพื่อน กับเป็นสุนัข เฝ้าบ้านที่ดี ค่อยป้องกันภัยอันตรายต่างๆ จากคนแปลกหน้าได้ อย่างยอดเยี่ยม เพราะน้องสุนัขพันธุ์นี้ มีสัญชาตญาณ ในความเป็นนักล่า รวมถึงค่อนข้างดุ น้องไม่ค่อยเป็นมิตร กับผู้อื่น แต่เป็นสุนัขที่ซื่อสัตย์ และจงรักภักดีต่อเจ้าของมาก
สุนัขทั้งสองสายพันธุ์นี้ ขึ้นชื่อในเรื่องของความดุทั้งคู่ รวมถึงมีอุปนิสัยที่คล้ายกัน มีความขี้หวง ซื่อสัตย์ จงรักภักดี และมีสัญชาตญาณ ในความเป็นนักล่าเหมือนกัน ถ้าพูดถึงเรื่องความดุ สุนัขสายพันธุ์บางแก้ว จะดุมากกว่า สุนัขพันธุ์ไทยหลังอาน เนื่องจากบางแก้ว จะรักเจ้าของ และหวงเจ้าของมาก มีความตื่นตัว และใครจะไปข่มไม่ได้ ฝึกฝนค่อนข้างยาก และมีความอดทนน้อย ส่วนไทยหลังอาน ดุเหมือนกัน แต่จะดุแค่บางเวลา สามารถฝึกฝนได้ง่ายกว่า และจะไม่ขี้หวง กับดุร้าย เท่ากับสุนัขบางแก้ว
ถ้าเป็นเด็กที่มีความผูกพันกับน้อง หรือเลี้ยงน้องหมามาตั้งแต่ยังเล็ก ถือว่าอยู่ด้วยกันได้ แต่ถ้าหากปล่อยเด็ก อยู่กับน้องหมา ตามลำพัง โดยทั้งสุนัข และเด็กไม่ได้สนิท หรือ คุ้นเคยกันมาก่อน ไม่แนะนำให้ปล่อยเด็กไว้กับสุนัข เพราะน้องสุนัข ไม่ได้เป็นมิตรกับทุกคน รวมถึงมีสัญชาตญาณ ในความเป็นนักล่า เวลาที่โดนเด็กดุ หรือ เด็กร้องไห้เสียงดัง อาจทำให้น้องหมาหงุดหงิด และทำร้ายเด็กได้