
รวมข้อดี โกลเด้น รีทรีฟเวอร์ สุนัขที่น่าเลี้ยง
- เฌออัณณ์
- 65 views
รวมข้อดี โกลเด้น รีทรีฟเวอร์ ถือเป็นสุนัข อีกหนึ่งสายพันธุ์ ที่คนส่วนใหญ่รู้จัก และได้รับความนิยม ในการเลี้ยงดู เป็นอันดับต้นๆ เลยก็ว่าได้ เนื่องจากน้องสุนัขพันธุ์นี้ มีอุปนิสัยดี เป็นมิตรต่อผู้อื่น อารมณ์ดี มีความอ่อนโยน และจะชอบแสดงความรัก ต่อเจ้าของ รวมถึงเข้ากับเด็กน้อย ได้เป็นอย่างดี และน้องเป็นสุนัขที่มี พลังงานเหลือล้น จะชอบวิ่งเล่น เป็นชีวิตจิตใจ
สุนัขสายพันธุ์นี้ เป็นสุนัขที่มีพลังงาน ค่อนข้างสูง และกระตือรือร้น อยู่ตลอดเวลา สำหรับใคร ที่จะเลี้ยงสุนัขพันธุ์นี้ คุณจะต้องให้ความใส่ใจ ในทุกๆ เรื่องของน้องหมา โดยเฉพาะ ในเรื่องของ การให้อาหาร ถือเป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะน้องหมา จะต้องได้รับสารอาหาร ที่ครบถ้วน และมีคุณภาพสูง เพื่อสุขภาพที่แข็งแรง และใช้ชีวิต อยู่ร่วมกับคุณ ไปนานๆ นั่นเอง
ที่มา: Golden Retriever [1]
น้องสุนัขพันธุ์นี้ ไม่ได้ถูกเลี้ยง เป็นสุนัขครอบครัวมา ตั้งแต่ต้นกำเนิด โดยย้อนกลับ ไปในสมัยคริสต์ศตวรรษที่ 18 ที่ประเทศสกอตแลนด์ ซึ่งเมือง Guisachan ได้มีการพัฒนา สายพันธุ์โกลเด้นรีทรีฟเวอร์ ขึ้นเพื่อเป็นสุนัขล่านก และพื้นที่ทางน้ำ
จากนั้น ในปีคริสต์ศักราช 1903 น้องสุนัข ได้รับการจดทะเบียนโดย The Kennel Club of England และได้รับ ความนิยมในปีคริสต์ศักราช 1913 โดยที่ Golden Retriever Club ถูกก่อตั้งขึ้น และถือเป็นการเปลี่ยน เป็นชื่อสายพันธุ์ “โกลเด้น รีทรีฟเวอร์” อย่างเป็นทางการ นั่นเองทางการ
ที่มา: Golden Retriever Dog Breed Information and Personality Traits [2]
สุนัขพันธุ์โกลเด้นรีทรีฟเวอร์ เชื่อว่าทาสหมาทุกคน คงไม่มีใคร ไม่รู้จักเจ้าหมาสุดน่ารัก อย่าง โกลเด้น หรือ ที่มีอีกชื่อเรียกว่า รัสเซียน รีทรีฟเวอร์ (Russian Retriever) แน่นอน น้องเป็นสุนัขที่มีหน้าตาน่ารัก และนิสัยที่เป็นมิตร ร่าเริง ทำให้โกลเด้น เป็นสุนัขสายพันธุ์ ที่คนนิยมเลี้ยง ค่อนข้างเยอะ
อาหาร : สำหรับสุนัขโกลเด้นวัยเด็กควรใส่ใจเรื่องอาหารและโภชนาการมากที่สุด เช่น แคลเซียม ที่จะช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ และกระดูกให้แข็งแรง ดีเอชเอ ช่วยพัฒนาสมอง และการเรียนรู้ ไขมัน เหล็ก ไลโคปีน ที่จะช่วยต้านความเสื่อมของร่างกาย รวมถึงวิตามิน และเกลือแร่ ที่จะช่วยสร้างเสริมภูมิคุ้มกันให้สุนัขอีกด้วย [3]
ความสะอาด : การรักษา เรื่องความสะอาด เพราะถือว่า เป็นสิ่งที่สำคัญ เจ้าของควรอาบน้ำ ให้น้องหมาเดือนละ 1 ครั้ง หรือ อาบน้ำให้ทันที หลังจากที่น้องหมา ไปเล่นกลับมาแล้ว เนื้อตัวสกปรกมากๆ พร้อมกับแปรงขน ให้น้องหมาด้วย เพื่อขนที่ตายไปแล้ว จะได้หลุดร่วงไป และตัดเล็บให้น้องหมา ทุกครั้งเมื่อเล็บน้องยาว รวมถึง แปรงฟันให้น้องหมาด้วย
โรคข้อสะโพกเสื่อม : (Hip Dysplasia) ซึ่งพบได้บ่อยได้หมู่สุนัขพันธุ์ โกลเด้นรีทรีฟเวอร์ โดยข้อสะโพกเจริญผิดปกติ ทำให้ข้อต่อมีรูปร่าง และการเคลื่อนผิดปกติ นำไปสู่การอักเสบในระยะยาว โดยสุนัขมักแสดงอาการเจ็บเมื่อลุกขึ้นยืน
โรคต่อมไทรอยด์ผิดปกติ : (Hypothyroidism) ถึงแม้รูปร่างภายนอกเจ้าหมาโกลเด้นจะดูอ้วนท้วมขึ้น เป็นสัญลักษณ์ของการกินดีอยู่ดี แต่ถ้าพวกมันน้ำหนักขึ้นผิดปกติจนเกินไป และมีสภาวะซึม อ่อนแอ ให้ลองสังเกตอาการดี ๆ เพราะมันเป็นอาการเบื้องต้นของโรคต่อมไทรอยด์ผิดปกติ มาจากความผิดปกติของภูมิคุ้มกันที่ทำร้ายต่อมไร้ท่อ
โรคภูมิแพ้ : (Allergies) สุนัขพันธุ์โกลเด้นส่วนมาก มักมีผิวหนังที่บอบบางและอ่อนแอ ซึ่งอาจจะมาจากการเลี้ยงดู อาหารการกินต่าง ๆ จนทำให้พวกมันเกิดอาการคันอย่างหนัก และเสี่ยงต่อการติดเชื้อทางผิวหนังได้
โรคมะเร็ง : (Cancer) ซึ่งเป็นสาเหตุการตายอันดับต้น ๆ ของเจ้าหมาโกลเด้น รีทรีฟเวอร์ โดยมะเร็งที่พบบ่อยสุดคือ มะเร็งต่อมน้ำเหลือง (Lymphosarcoma), มะเร็งกระดูกชนิด osteosarcoma, มะเร็งในหลอดเลือด (Hemangiosarcoma), และมะเร็งผิวหนังชนิด Mast cell tumor
สามารถอ่านเพิ่มเติม เกี่ยวกับ โรคที่ต้องระวังในสุนัขสายพันธุ์โกลเด้น รีทรีฟเวอร์ ได้ที่ yorapetfoods
สุนัขโกลเด้นรีทริฟเวอร์ นั้นเป็นสุนัขที่เป็นมิตรและนิสัยดีเป็นอันดับต้นๆ ในบรรดาสุนัขทั้งหมด แต่เดิมสุนัขโกลเด้น รีทริฟเวอร์ ถูกปรับปรุงพันธุ์มาเพื่อเป็นผู้ช่วยของบรรดาผู้ที่ชื่นชอบการล่านกเป็ดน้ำ สุนัขพันธุ์นี้จึงค่อนข้างแอคทีฟ และมีพลังงานสูง มีนิสัยชอบคาบ รวมถึงกัดแทะสิ่งของต่างๆ
น้องสุนัขพันธุ์นี้ มีอารมณ์เย็น ฉลาด และมีเสน่ห์ และขี้เล่น เขาสุภาพกับเด็กๆ และเข้ากันได้ดีกับสัตว์ตัวอื่น และคนแปลกหน้า สุนัขพันธุ์นี้ชอบที่จะทำให้เราชื่นชอบ จึงเป็นสาเหตุให้เขาตอบสนองต่อการฝึกได้ดีและเป็นที่นิยมในการเป็นสุนัขที่ให้ความช่วยเหลือ เขาชอบทำงานไม่ว่าจะเกี่ยวกับการล่านก หรือว่าไล่เก็บรองเท้าของผู้ดูแล
น้องเป็นสายพันธุ์ที่ฝึกได้ง่าย พวกเค้าชอบเป็นจุดสนใจ และพร้อมจะเอาใจเจ้าของด้วยการตั้งใจฝึกอย่างเต็มที่ การฝึกลูกสุนัขโกลเด้น รีทรีฟเวอร์ให้คุ้นเคยกับผู้คน และเรียนรู้ที่ทำกิจกรรมต่าง ๆ ตั้งแต่ช่วงอายุ 7 สัปดาห์ ถึง 4 เดือน จะช่วยให้น้องหมาปรับตัวได้ดี เมื่อเข้าสู่ช่วงโตเต็มวัย