
รวมความดุ ร็อตไวเลอร์ สุนัขที่มี ความจงรักภักดี
- เฌออัณณ์
- 87 views
รวมความดุ ร็อตไวเลอร์ ถือเป็นสุนัข อีกหนึ่งสายพันธุ์ ที่คนส่วนใหญ่รู้จัก กันทั่วโลก สุนัขสายพันธุ์นี้ มีชื่อเสียงที่โด่งดัง ในเรื่องของความดุดัน แข็งแกร่ง กล้าหาญ และมีความจงรักภักดี ต่อเจ้าของ หรือ คนที่ตัวเองรัก แถมยังเป็นสุนัข ที่เชื่อฟังเจ้าของ และฝึกค่อนข้างง่าย อีกด้วย
สุนัขร็อตไวเลอร์ ถือว่าเป็นสุนัข ที่หลายคนได้ยินแค่ชื่อ ก็เป็นอันต้องหวาดกลัว เพราะคนส่วนมาก จะรู้กันดีว่า สุนัขสายพันธุ์นี้ เป็นสุนัข ที่ค่อนข้างดุพอๆ กับสุนัขสายพันธุ์ พิทบูล จึงทำให้หลายคนกลัว แต่ก็ใช่ว่า สุนัขพันธุ์นี้ จะดุร้ายทุกตัว บางตัวก็ใจดี ขึ้นอยู่กับการเลี้ยงดู และการฝึกอบรม น้องสุนัขอีกทีด้วย
ที่มา: Rottweiler [1]
สุนัขพันธุ์ร็อตไวเลอร์ สืบเชื้อสาย มาจากสุนัขพันธุ์ Mastiff ที่เคยอาศัยอยู่ ในอาณาจักรโรมัน เมื่อราว 2,000 ปีก่อน โดยสุนัขพันธุ์นี้ เดินตามกองทหารโรมัน ไปทางเหนือ ซึ่งในระหว่างทาง บรรพบุรุษ ของสุนัขร็อตไวเลอร์ ได้ช่วยขนย้ายวัว และช่วยดูแลให้วัว ให้ปลอดภัยจากนักล่า หรือขโมย
หลังจากนั้น สุนัขพันธุ์ Rottweiler ก็กลายมาเป็น เพื่อนร่วมทางที่มีค่า ซึ่งมีผู้ชื่นชอบ สุนัขพันธุ์นี้มากขึ้น และด้วยความสามารถ ในการทำงาน บวกกับลักษณะนิสัย ของสุนัขร็อตไวเลอร์ จึงได้มีการผสมพันธุ์ สุนัขร็อตไวเลอร์ ที่เหลือกระจาย อยู่ทั่วทวีปยุโรป และทำให้มีสุนัขสายพันธุ์นี้ ได้รับความนิยม นั่นเอง
ที่มา: Rottweiler History: From Working Dog to Sporting, Therapy Dog [2]
สุนัขร็อตไวเลอร์ เป็นสุนัขที่มีความกะทัดรัด และโครงสร้างร่างกาย ที่แข็งแรง เป็นสุนัขที่ดูดี และน่าเกรงขามสุดๆ ซึ่งในการฝึกฝน จะต้องมีเจ้านาย ที่ค่อยฝึก และอบรมสุนัข ให้สุนัขมีความสุขุม มั่นคงทางอารมณ์ เพราะโดยธรรมชาติ สุนัขพันธุ์นี้ จะไม่ลังเล ที่จะเผชิญหน้า กับภัยอันตรายใดๆ ที่จะเกิดขึ้น
การออกกำลังกาย : น้องหมาพันธุ์นี้ จะคุ้นเคย กับการทำงาน ตลอดเวลา เพราะเดิมเคยเป็น สุนัขทำงานมาก่อน ดังนั้นจึงจำเป็น ต้องให้น้องหมา ออกกำลังกาย หรือทำกิจกรรมทุกวัน เพื่อให้น้องหมา ได้ผ่อนคลาย และควรหลีกเลี่ยง การพาสุนัข ไปข้างนอก เพราะน้องหมา อาจสร้างความหวาดกลัว ให้กับผู้อื่นได้
อาหารโภชนาการ : สำหรับการให้ อาหารเม็ด แก่น้องหมา ควรให้ในปริมาณ 2-5 ถ้วย ก็ถือว่าเพียงพอแล้ว และควรแบ่งมื้ออาหาร ออกเป็น 2 มื้อต่อวัน เพราะการให้ อาหาร ที่มากไป จะทำให้น้องหมา เสี่ยงต่อการเป็นโรคอ้วนได้ ซึ่งโรคอ้วนนี้ จะนำพาไปสู่ โรคแทรกซ้อนอื่นๆ ได้หลายโรคอีกด้วย [3]
โรคข้อสะโพกเสื่อม : โรคนี้จะส่งผล ให้เกิดความเจ็บปวด ความไม่มั่นคง และข้อต่อสึกกร่อน ซึ่งน้องหมา ที่น้ำหนักมาก ก็มีความเสี่ยงสูง ที่จะเกิดอาการข้อเสื่อม โดยสุนัขอาจเริ่มแสดง อาการของโรคได้ ตั้งแต่อายุ 4 เดือนขึ้นไป แต่สุนัขบางตัว ก็จะแสดงอาการ ตอนที่มีอายุมาก หรือตอนที่แก่แล้ว
โรคลิ้นหัวใจ : เป็นภาวะทางกรรมพันธุ์ ของหัวใจ ทำให้หัวใจ ต้องทำงานหนักขึ้น เพื่อสูบฉีดเลือด ไปทั่วร่างกาย ซึ่งโรคนี้มักไม่ได้รับ การตรวจพบในสุนัข ที่มีอาการไม่รุนแรง เพราะโรคนี้ เป็นมาแต่กำเนิด และสัญญาณเตือน ของโรคนี้ มีเพียงอย่างเดียวคือ เสียงหัวใจ ของน้องหมา จะเต้นผิดปกติ
โรคข้อศอกเสื่อม : เป็นโรคที่เกิดจาก ความผิดปกติ ของข้อต่อข้อศอก ของน้องหมา ซึ่งโรคนี้ จะคล้ายกับ โรคข้อสะโพกเสื่อม ส่งผลให้กระดูก 3 ชิ้นในข้อต่อ ไม่พอดีกัน ทำให้บริเวณ ที่มีแรงกดทับสูงผิดปกติ ซึ่งโรคนี้ อาจส่งผลต่อ ลูกสุนัขที่มีอายุ เพียงแค่ 4 เดือน
โรคหนังตาพลิก : เป็นโรคที่เกี่ยวกับตา โดยที่เปลือกตา ของจะม้วนเข้าด้านใน ทำให้ขนตาสัมผัสกับ กระจกตาตลอดเวลา ส่งผลให้เกิดแผล ที่เจ็บปวดได้ หากปล่อยทิ้งไว้ เป็นเวลานาน โรคนี้อาจทำให้ น้องหมาสูญเสีย การมองเห็น ในที่สุดนั่นเอง
ที่มา: 10 Common Health Problems in Rottweilers: Vet-Verified Facts [4]
สรุป รวมความดุ ร็อตไวเลอร์ เป็นสุนัขที่เชื่อฟังมาก และสามารถฝึกได้ง่าย หากได้รับ การฝึกฝนมาตั้งแต่ยังเล็ก รวมถึงน้องเป็นสุนัข ที่ค่อนข้างดุ ซึ่งเจ้าของ จะต้องดูแลน้องหมาให้ดี อย่าให้น้องหมาหลุด ออกไปข้างนอกเอง เพราะอาจทำให้ผู้อื่น และสัตว์เลี้ยงทั้งหลาย ได้รับอันตราย ถึงชีวิตได้
น้องสุนัขสายพันธุ์นี้ ถือว่าราคาค่อนข้างสูง ซึ่งราคาของน้องหมา จะอยู่ที่หลักหมื่นขึ้นไป โดยราคาประมาณ 85,000-290,000 บาทต่อตัว และบางตัว อาจมีราคา ที่มากกว่านี้ ขึ้นอยู่กับองค์ประกอบ โดยรวมอื่นๆ อีกด้วย
ถึงแม้ว่า สุนัขร็อตไวเลอร์ จะเป็นสุนัข ที่เข้าสังคมได้ดี แต่ก็ไม่ควรปล่อย ให้อยู่ตามลำพัง กับเด็กเล็กๆ เพราะอุบัติเหตุ มักเกิดขึ้นได้ ควรมีผู้ใหญ่ คอยอยู่เคียงข้างเสมอ เพราะเด็ก อาจจะทำให้ น้องหมาเครียด หรือหงุดหงิดได้