
ศึกสายเลือด แห่งโอลิมปัส พี่น้องต่างคมดาบ
- J. Kanji
- 39 views
ศึกสายเลือด แห่งโอลิมปัส ศึกสายเลือด แห่งโอลิมปัส เป็นเรื่องราวของความขัดแย้ง และการแย่งชิงอำนาจ ในหมู่เทพเจ้ากรีกโบราณ เริ่มตั้งแต่การที่ซุส โค่นล้มบิดาของตน โครนัสผู้เป็นไททัน ไปจนถึงความขัดแย้งมากมาย ที่เกิดขึ้นบนเขาโอลิมปัส เรื่องราวจะเป็นอย่างไร บทความนี้มีคำตอบ
ความขัดแย้งนี้ เริ่มมาจากการที่โครนัส กลัวคำทำนายว่า ลูกของตนจะโค่นล้มอำนาจเขา เขาจึงกลืนลูกๆ ทุกคนเข้าไปในท้อง แต่รีอา ภรรยาของโครนัส ไม่พอใจที่เห็นลูกๆ ถูกกลืน จึงช่วยซุสหลบหนีไป โดยหลอกให้โครนัส กินก้อนหินแทนทารกซุส เมื่อซุสเติบโตขึ้น เขาวางแผนแก้แค้นอย่างแยบยล
เขาปลอมตัวเป็นคนรับใช้ และเติมยาพิเศษ ลงในเครื่องดื่มของโครนัส ทำให้โครนัส อาเจียนพี่น้องของซุส ออกมาทั้งหมดโดยมี โพไซดอน ฮาเดส เฮรา ดีมิเทอร์ และเฮสเทีย พวกเขาทั้งหมดรอดชีวิต และร่วมมือกัน ต่อสู้กับโครนัส และไททันคนอื่นๆ
สงครามยาวนาน และโหดร้ายมาก สุดท้ายซุส และพี่น้องก็ชนะ จับโครนัส และไททันส่วนใหญ่ ขังไว้ในคุกใต้พิภพ ที่เรียกว่า “ทาร์ทารัส” ที่ลึกกว่านรกเสียอีก นี่แสดงให้เห็นถึง การเริ่มต้นวงจรความรุนแรง ที่ไม่รู้จบในตระกูลเทพ พ่อกลัวลูกแย่งอำนาจ ทำร้ายลูก แล้วลูกก็กลับมาแก้แค้น และทำร้ายพ่อกลับ [1]
หลังจากชนะไททันแล้ว พี่น้องสามคนคือ ซุส โพไซดอน และฮาเดส ก็ต้องตกลงกันว่า ใครจะปกครองส่วนไหน ของจักรวาล โดยซุสได้ปกครองท้องฟ้า โพไซดอนได้ทะเล และฮาเดสโชคร้าย ได้ปกครองนรก เห็นได้ชัดว่า ฮาเดสถูกเอาเปรียบ ทำให้เกิดความบาดหมาง ในวงศ์ตระกูลยาวนาน
การแบ่งอำนาจนี้ ทำทำให้พวกเขาไม่พอใจ โดยเฉพาะโพไซดอน เขาหงุดหงิดที่ซุส มีอำนาจเหนือกว่า จึงมักท้าทายซุส ด้วยการสร้างพายุ และแผ่นดินไหว ที่ทำให้มนุษย์เดือดร้อน ส่วนฮาเดส ก็คิดว่าตัวเองถูกเอาเปรียบ เพราะต้องไปอยู่ ในอาณาจักรมืดใต้พิภพ ไม่ได้รับการบูชา จากมนุษย์เหมือนพี่น้องคนอื่นๆ
แม้จะแบ่งอาณาเขตกันแล้ว แต่พวกเขา ก็ยังก้าวก่ายเขตแดน ของกันและกันอยู่เรื่อย เช่น ซุสเข้าไปเกี่ยวข้อง กับทะเล และความตายบ่อยๆ โพไซดอนก็สร้างปัญหาบนบก และฮาเดส ก็พาคนที่ยังไม่ควรตายลงนรก นี่เป็นตัวอย่างหนึ่ง ของการที่ความขัดแย้งของเทพ ส่งผลกระทบต่อโลกมนุษย์
การกบฏครั้งนี้ เกิดขึ้นเพราะเทพหลายองค์ เบื่อหน่ายกับการปกครอง แบบเผด็จการของซุส เฮราโกรธที่ซุสมักนอกใจ และมีลูกนอกสมรสมากมาย อะพอลโลโกรธ ที่ซุสฆ่าลูกของเขา คือแอสเคลปิอุส โพไซดอนไม่พอใจ ที่ได้ปกครองแค่ทะเล แม้แต่อะธีนา ที่เป็นลูกโปรดของซุส ก็ยังเข้าร่วม ในการกบฏครั้งนี้
โดยเริ่มจากการที่เฮรา ล่อลวงซุสด้วยเสน่ห์ และทำให้เขาหลับใหล ก่อนที่พวกเขา จะใช้เชือกร้อยเส้น มัดซุสไว้กับบัลลังก์ ทุกอย่างเกือบจะสำเร็จ แต่เธทิส หนึ่งในเนเรอิด (เทพธิดาทะเล) ได้ยินแผนการนี้ และรีบไปตาม ยักษ์มือร้อยชื่อ “ไบรอาเรียส” มาช่วยซุส หลังจากรอดพ้น จากการกบฏ
ซุสลงโทษผู้ทรยศอย่างรุนแรง เขาแขวนเฮรา ไว้บนท้องฟ้า ด้วยโซ่ทองคำ และถ่วงเท้าเธอ ด้วยแท่นตีเหล็ก ส่วนโพไซดอน และอะพอลโล ถูกบังคับให้ไปรับใช้ กษัตริย์มนุษย์ เป็นเวลาหนึ่งปี เหตุการณ์นี้ ทำให้เทพองค์อื่นๆ เกรงกลัวซุสมากขึ้น และทำให้ซุส ระแวดระวังตัวตลอดเวลา ไม่ไว้ใจแม้แต่คนใกล้ชิด [2]
ไกอา (เทพแห่งโลก) โกรธมากที่ซุสสังหารลูกๆ ของเธอที่เป็นไททัน เธอจึงสร้างสัตว์ประหลาดยักษ์ ที่เรียกว่าไจแอนต์ มาแก้แค้น มีคำทำนายว่า เทพจะไม่สามารถฆ่าไจแอนต์ได้ หากไม่มีมนุษย์ช่วย ซุสจึงต้องหันไปพึ่งเฮอร์คิวลิส ลูกนอกสมรสของเขา กับอัลค์มีนี
เฮอร์คิวลิสยิงธนู เข้าที่ตายักษ์ และช่วยให้เทพองค์อื่นๆ สามารถฆ่าพวกมันได้ บางตำนานเล่าว่า อะธีนาโยนเกาะซิซิลีทั้งเกาะ ใส่ยักษ์เอนเซลาดัส จนทำให้เขาถูกฝัง อยู่ใต้ภูเขาไฟเอ็ทน่า ทุกครั้งที่ภูเขาไฟระเบิด ก็เพราะยักษ์พยายามดิ้นรนหนี
สงครามครั้งนี้ สอนให้ซุสรู้ว่า แม้แต่เทพที่ทรงพลังที่สุด บางครั้งก็ต้องการ ความช่วยเหลือจากมนุษย์ และนี่เป็นหนึ่งในเหตุผล ที่ทำให้เทพกรีก มักลงมาเกี่ยวข้อง กับมนุษย์บ่อยๆ นั่นเอง
เรื่องราวเริ่มขึ้น ในงานแต่งงานของเพลีอุส และเธทิส ซึ่งเทพทุกองค์ได้รับเชิญ ยกเว้นเอริส เทพแห่งความขัดแย้ง เอริสโกรธมาก จึงโยนแอปเปิลทองคำ ที่เขียนว่า “สำหรับผู้งดงามที่สุด” เข้าไปในงาน เทพีสามองค์ ต่างอ้างว่าตนสมควรได้รับ ซุสไม่อยากตัดสินเอง จึงมอบหมายให้ปารีส เจ้าชายแห่งทรอย เป็นผู้ตัดสิน
แต่ละเทพีพยายามติดสินบนปารีส เฮราเสนออำนาจ และความมั่งคั่ง อะธีนา เสนอความเฉลียวฉลาด และชัยชนะในสงครามแต่ อโฟรไดท์ เสนอความรัก จากหญิงงามที่สุดในโลก ซึ่งก็คือเฮเลน ภรรยาของกษัตริย์ เมเนลัอส แห่งสปาร์ตา ปารีสเลือกอโฟรไดท์ และลงเอยด้วยการลักพาตัวเฮเลนไปทรอย
ซึ่งจุดชนวนสงครามขึ้น สงครามกรุงทรอย เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดว่า ความขัดแย้งของเทพ สามารถส่งผลกระทบร้ายแรง ต่อมนุษย์ได้อย่างไร นครที่เคยรุ่งเรือง ถูกทำลายยับเยิน วีรบุรุษนับไม่ถ้วนเสียชีวิต เพียงเพราะความหยิ่งผยอง และความแค้น ของเหล่าเทพ [3]
เทพซุสมีลูกเยอะมากๆ ทั้งกับเฮรา และกับคนอื่นๆ ลูกๆ พวกนี้ก็ต่อสู้แย่งชิงอำนาจกันเอง เช่น อะพอลโล กับเฮอร์มีส แย่งกันว่าใครจะเป็นเทพ แห่งดนตรี และศิลปะ แอรีส ชอบก่อสงคราม เพียงเพื่อให้ตัวเอง มีบทบาทสำคัญ อะธีนาและ โพไซดอน แข่งกันว่าใครจะเป็นผู้อุปถัมภ์ เมืองเอเธนส์ แทบไม่จบไม่สิ้น
ซุสมีลูกกับเทพี และมนุษย์มากมาย ทำให้เฮราโกรธ และอิจฉามาก เธอมักจะแก้แค้น โดยการรังแกภรรยาน้อย และลูกนอกสมรสของซุส แทนที่จะโกรธซุสโดยตรง ลูกๆ ของซุส มักแข่งขันกัน เพื่อความโปรดปรานจากพ่อ หวังว่าจะได้รับตำแหน่งสำคัญ บนโอลิมปัส
ความขัดแย้ง เหล่านี้แสดงให้เห็นว่า แม้แต่ในหมู่พี่น้องเทพ การแข่งขัน และความอิจฉาก็เป็นเรื่องปกติ และเมื่อผู้ที่แข่งขันกันเป็นอมตะ ความขัดแย้งเหล่านี้ ก็จะไม่มีวันจบสิ้น เป็นวัฏจักรที่วนเวียน ไปตลอดกาล
สรุป ศึกสายเลือด แห่งโอลิมปัส สอนให้เรารู้ว่า แม้แต่เทพเจ้า ที่ทรงพลังที่สุด ก็ยังมีปัญหาครอบครัว และความขัดแย้งภายใน และเราก็เข้าใจ ความรู้สึกเหล่านี้ได้ไม่ยาก ตำนานเทพกรีก จึงยังคงมีเสน่ห์ และทรงพลัง มาจนถึงทุกวันนี้ เพราะในท้ายที่สุด แม้แต่เทพ ก็มีอารมณ์ และปัญหา แบบมนุษย์ธรรมดานั่นเอง
โครนัสกลืนลูกๆ เพราะกลัวคำทำนายว่า ลูกของตนจะโค่นล้มอำนาจเขา แต่ซุสรอดพ้นเพราะรีอา ภรรยาของโครนัส ช่วยให้ซุสหลบหนีไป โดยหลอกให้โครนัส กินก้อนหินแทนทารกซุส
เพราะในการแบ่งอำนาจ ระหว่างพี่น้องสามคน ซุสได้ปกครองท้องฟ้า โพไซดอนได้ทะเล ส่วนฮาเดสต้องปกครองนรก ซึ่งเป็นอาณาจักรมืดใต้พิภพ ทำให้เขาไม่ได้รับการบูชา จากมนุษย์เหมือนพี่น้องคนอื่นๆ ความรู้สึกถูกเอาเปรียบนี้ ทำให้เกิดความบาดหมาง ในวงศ์ตระกูลยาวนาน