แหล่งรวมเกมส์ชั้นนำ สล็อต คาสิโน บาคาร่า พร้อมระบบล้ำทันสมัย รวดเร็วทันใจ

สัญลักษณ์ นกกีวี ในประเทศนิวซีแลนด์

สัญลักษณ์ นกกีวี

สัญลักษณ์ นกกีวี เป็นอะไรที่คนทั่วโลก รู้จักกันดี โดยเฉพาะเมื่อพูดถึง ประเทศนิวซีแลนด์ นกกีวีไม่ได้เป็นแค่นกธรรมดา ๆ แต่ยังเป็นตัวแทน ของเอกลักษณ์ วัฒนธรรม และความภาคภูมิใจ ของชาวกีวี (ชาวนิวซีแลนด์) อีกด้วย ทำไมนกกีวีถึงได้เป็น สัญลักษณ์สำคัญขนาดนี้ มาหาคำตอบไปพร้อมกัน

ลักษณะเด่นของนกกีวี

นกกีวีจัด อยู่ในกลุ่มนก ที่บินไม่ได้ เช่นเดียวกับ นกกระจอกเทศ และเพนกวิน แต่สิ่งที่ทำให้มัน แตกต่างก็คือ ขนาดตัวที่เล็กกว่ามาก โดยเฉลี่ยแล้ว จะมีความสูงประมาณ 25-45 ซม. และหนักราว 1.3-3.3 กิโลกรัม (ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์) มีจุดเด่นที่ชัดเจนคือ

  • ไม่มีปีกที่ใช้งานได้ – ปีกของนกกีวีเล็กมาก จนแทบมองไม่เห็น และไม่สามารถ ใช้บินได้เลย เพราะโครงสร้างร่างกายของมัน พัฒนาไปในทิศทาง ของการใช้ชีวิต อยู่บนพื้นดินมากกว่า
  • มีขนคล้ายขน สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม – ขนของมันไม่แข็ง และเรียบ เหมือนนกทั่วไป แต่เป็นเส้นฟูๆ คล้ายเส้นขน ของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ซึ่งช่วยให้มันอบอุ่น ในสภาพอากาศที่เย็น
  • จมูกอยู่ที่ปลายปาก – จุดนี้เป็นเอกลักษณ์มาก เพราะนกส่วนใหญ่ มักมีรูจมูก อยู่ใกล้กับฐานปาก แต่กีวีมีรูจมูก อยู่ตรงปลายปาก ทำให้สามารถ ดมกลิ่นได้ดีเยี่ยม ช่วยให้มัน หาอาหารใต้ดิน ได้อย่างแม่นยำ
  • ตาเล็กแต่หูไว – ถึงแม้สายตาจะไม่ดีมาก แต่นกกีวี มีระบบการได้ยินที่ ยอดเยี่ยม และยังสามารถรับรู้ แรงสั่นสะเทือนได้ดีด้วย ซึ่งช่วยให้มัน ระวังภัยจากนักล่า ได้ดีขึ้น

 

ที่มา: “Kiwi bird” [1]

พฤติกรรม และนิสัยของนกกีวี

นกกีวีเป็นสัตว์หากินกลางคืน (Nocturnal) พวกมันจะซ่อนตัว ในโพรงดิน หรือใต้พุ่มไม้ ในตอนกลางวัน แล้วออกมาหากิน ตอนกลางคืน อาหารหลักของพวกมัน ได้แก่ หนอน ไส้เดือน แมลงขนาดเล็ก และผลไม้บางชนิด โดยใช้จมูกที่ไวต่อกลิ่น ช่วยหาอาหารใต้ดิน

พฤติกรรมที่น่าสนใจ อีกอย่างของนกกีวีคือ มันเป็นสัตว์ที่มีอาณาเขตชัดเจน หากมีตัวอื่นบุกรุกเข้ามา ในพื้นที่ของมัน มันจะส่งเสียงร้องเตือน หรือแม้แต่ไล่จิก เพื่อปกป้องพื้นที่ ของตัวเอง

ไข่ที่ใหญ่เกินตัว ของนกกีวี

สิ่งที่น่าทึ่ง เกี่ยวกับนกกีวีก็คือ พวกมันวางไข่ ที่มีขนาดใหญ่มาก เมื่อเทียบกับขนาดตัวของมัน ไข่ของนกกีวี สามารถหนักได้ถึง 20% ของน้ำหนักตัวแม่ ถือว่าเป็นอัตราส่วน ที่ใหญ่ที่สุด เมื่อเทียบกับนกชนิดอื่นๆ [2]

เมื่อลูกนกฟักออกมา พวกมันก็มีขนปกคลุมเต็มตัว และสามารถออกหาอาหาร ได้เองในเวลาไม่นาน นอกจากนี้ นกกีวีตัวผู้ ยังเป็นฝ่ายที่รับผิดชอบ ในการฟักไข่ ซึ่งใช้เวลาฟัก ประมาณ 70-80 วัน ถือเป็นระยะเวลาฟักไข่ ที่นานมากสำหรับนก ที่มีขนาดตัวเล็กแบบนี้

สัญลักษณ์ของนกกีวี

สัญลักษณ์ นกกีวี

นกกีวีไม่ได้เป็นเพียง สัตว์หายากเท่านั้น แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ ที่สำคัญของนิวซีแลนด์อีกด้วย คำว่า “Kiwi” ไม่ได้ใช้เรียกแค่นกเท่านั้น แต่ยังเป็นชื่อเล่น ของชาวนิวซีแลนด์เอง ซึ่งแสดงถึงความภาคภูมิใจ ในชาติของพวกเขา [3]

สัญลักษณ์ นกกีวี มักถูกนำมาใช้ ในการแข่งขันกีฬา ธนบัตร และตราสินค้าต่างๆ เพื่อสื่อถึงความเป็นเอกลักษณ์ ของประเทศนี้อีกด้วย

นกกีวีกับสถานะ ที่น่าเป็นห่วง

แม้ว่านกกีวี จะเป็นสัญลักษณ์ ของนิวซีแลนด์ แต่มันก็เผชิญกับปัญหา ด้านการอนุรักษ์อย่างหนัก เนื่องจากถูกคุกคาม จากสัตว์นักล่า ที่ถูกนำเข้ามาในนิวซีแลนด์ เช่น สุนัขจิ้งจอก แมว และหนู อีกทั้งการทำลาย ถิ่นที่อยู่อาศัย ก็ส่งผลกระทบ ต่อจำนวนประชากร ของพวกมันอย่างมาก

ในปัจจุบัน มีโครงการอนุรักษ์มากมาย ที่พยายามช่วยฟื้นฟู ประชากรนกกีวี ให้เพิ่มขึ้น รวมถึงการสร้าง เขตรักษาพันธุ์ และการนำสัตว์นักล่า ออกจากพื้นที่ ที่เป็นแหล่งอาศัย ของพวกมัน

ข้อเท็จจริง เกี่ยวกับนกกีวี

  • นกกีวีเป็นสัตว์ที่รักสันโดษ มักใช้ชีวิตอยู่ตามลำพัง เว้นแต่ในช่วงผสมพันธุ์
  • ถึงแม้จะไม่มีปีก แต่ขาของมันแข็งแรงมาก ใช้วิ่งหนีอันตรายได้ดี
  • ชื่อ “กีวี” มาจากเสียงร้องของมัน ที่ฟังคล้ายกับคำว่า “คี-วี”
  • นกกีวีมีอายุขัย ค่อนข้างยาว โดยสามารถมีอายุ ได้ถึง 25-50 ปี ในธรรมชาติ

สรุป สัญลักษณ์ นกกีวี

สรุป นกกีวี อาจจะเป็นนก ที่ดูแปลก และแตกต่างจากนกทั่วไป แต่เสน่ห์ของมัน อยู่ที่ความเป็นเอกลักษณ์ และความน่ารัก ในแบบของมันเอง นอกจากจะเป็นสัตว์ประจำชาติ ของนิวซีแลนด์แล้ว นกกีวียังเป็นสัญลักษณ์ ของการอนุรักษ์ธรรมชาติอีกด้วย หวังว่าบทความนี้ จะทำให้หลงรัก เจ้านกสุดพิเศษนี้มากขึ้น

นกกีวีสามารถบิน ได้ไหม?

ไม่ได้เลย นกกีวีเป็นนกที่บินไม่ได้ เพราะปีกของมันเล็กมาก และไม่สามารถใช้งานได้ นอกจากนี้ กระดูกของมัน ยังไม่มีโครงสร้าง ที่เหมาะสมกับการบิน เนื่องจากเป็นนก ที่วิวัฒนาการ มาเพื่อใช้ชีวิต บนพื้นดินโดยเฉพาะ

นกกีวีมีถิ่นที่อยู่ที่ไหน?

นกกีวีเป็นสัตว์พื้นเมือง ของประเทศนิวซีแลนด์ และสามารถพบได้ ตามป่าธรรมชาติ ทุ่งหญ้า และพื้นที่ชื้น พวกมันชอบอาศัยอยู่ ในที่ที่มีพืชหนาแน่น เพราะช่วยให้สามารถ ซ่อนตัวจากนักล่าได้ดี และยังสามารถขุดโพรง เพื่ออยู่อาศัย และหลบภัยได้อีกด้วย

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน

แหล่งอ้างอิง