
สำรวจ พฤติกรรมแมว ที่วิทยาศาสตร์ยังหาคำตอบไม่ได้
- Harry P
- 90 views
สำรวจ พฤติกรรมแมว สัตว์เลี้ยงที่เต็มไปด้วย พฤติกรรมลึกลับ ที่บางครั้งพวกมัน ก็ดูเหมือนมีเหตุผล แต่บางครั้ง ก็ทำสิ่งที่ดูแปลกประหลาด จนมนุษย์สงสัย ว่าสิ่งเหล่านั้น มีคำอธิบายทางวิทยาศาสตร์หรือไม่ และพฤติกรรมลึกลับเหล่านี้ มีอะไรบ้าง ที่นักวิทยาศาสตร์ ยังคงพยายามทำความเข้าใจ
เจ้าของแมวจำนวนมาก เคยพบเห็นพฤติกรรมนี้ ที่แมวของพวกเขานั่งนิ่ง จ้องมองกำแพง หรือมุมห้อง ด้วยสายตาจริงจัง ราวกับว่ามีบางสิ่ง ที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่ตรงนั้น ทั้งๆที่เรามองดูแล้ว ก็ไม่พบอะไรเลย พฤติกรรมเช่นนี้ ยิ่งทำให้แมวถูกเชื่อมโยงกับ ความเชื่อโบราณ เรื่องแมว ที่มักจะไปทางน่าขนลุก
ทฤษฎีที่อาจอธิบายได้
หลายครั้งที่เราพบว่า แมวของเรา อยู่ดีๆก็วิ่งพรวดพราดไปทั่วบ้าน กระโดดขึ้นลงเฟอร์นิเจอร์ คล้ายกับกำลังถูกบางสิ่งไล่ล่า ทั้งๆที่ไม่มีสิ่งเร้าอะไร ที่ชัดเจนเลย
มีทฤษฎีที่มีคำอธิบาย ที่น่าเชื่อถือคือ แมวสะสมพลังงาน ไว้มากเกินไป แมวเป็นนักล่าตามธรรมชาติ แต่แมวบ้านนั้น ไม่ค่อยมีโอกาสได้ใช้พลังงาน อย่างที่ควรจะเป็น ดังนั้น พวกมันอาจเกิดอาการ “พลังงานล้น” และปลดปล่อยพลังงานออกมา เป็นช่วงเวลาสั้นๆ ผ่านพฤติกรรม ที่เรียกว่า “Zoomies” [1]
อีกทฤษฎีหนึ่งคือ แมวอาจตอบสนอง ต่อสิ่งเร้าที่มองไม่เห็น อาจเป็นการได้กลิ่นสัตว์ภายนอก ที่ผ่านเข้ามา หรืออาจเป็นสิ่ง ที่มนุษย์ไม่สามารถรับรู้ได้ อย่างเช่นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า หรือแรงสั่นสะเทือนบางอย่าง
เจ้าของแมวหลายคน ต้องเคยตื่นขึ้นมากลางดึก เพราะเสียงร้องของแมว เสียงที่พวกมันเปล่งออกมานั้น แตกต่างจากเสียงเหมียวทั่วไป มันอาจเป็นเสียงหอนต่ำๆ หรือเสียงร้องโหยหวน ที่ชวนขนลุก
ทฤษฎีหนึ่งที่อธิบายได้คือ แมวอาจกำลังสื่อสารกัน แมวเป็นสัตว์ที่มีพฤติกรรม กึ่งโดดเดี่ยว และมีวิธีการสื่อสาร ที่ซับซ้อน เสียงร้องยามค่ำคืนนั้น อาจเป็นการเรียกหาคู่ หรืออาจเป็นการ ส่งสัญญาณเตือนบางอย่าง
อีกแนวคิดหนึ่งคือ แมวอาจกำลังรับรู้ ถึงสิ่งที่เรามองไม่เห็น แมวมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไป ตามแรงโน้มถ่วงของดวงจันทร์ และบางครั้ง พวกมันอาจรับรู้ ถึงการเปลี่ยนแปลง ของพลังงานรอบๆตัว
แมวมักจะกดอุ้งเท้าสลับกัน บนตักของมนุษย์ บนผ้าห่ม หรือวัตถุที่นุ่มนิ่ม พฤติกรรมนี้มักถูกเรียกว่า “การนวด” (Kneading) และมีการเชื่อมโยง กับพฤติกรรมของลูกแมว ที่นวดท้องแม่ เพื่อกระตุ้นการหลั่งน้ำนม [2]
อย่างไรก็ตาม เหตุผลที่แมว ยังคงทำเช่นนี้เมื่อโตขึ้นแล้วนั้น ยังไม่แน่ชัดนัก บางทฤษฎีเชื่อว่า เป็นการแสดงความรัก และความสบายใจ หรืออาจเป็นพฤติกรรม ที่เกี่ยวข้องกับการสร้างอาณาเขต ผ่านต่อมกลิ่น ที่อยู่บริเวณอุ้งเท้า
แมวชอบนอนในกล่องหรือที่แคบๆ
แมวมีแนวโน้ม ที่จะเข้าไปซ่อนตัวในกล่อง หรือที่แคบๆ เช่น ลิ้นชัก ตะกร้า หรือแม้แต่ในกระเป๋าเดินทาง นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าสิ่งนี้ เกี่ยวข้องกับสัญชาตญาณ การเอาตัวรอด เนื่องจากพื้นที่แคบ ให้ความรู้สึกปลอดภัยจากนักล่า และยังช่วยให้พวกมัน สามารถซุ่มโจมตีได้ง่ายขึ้นอีกด้วย
แมวบางตัวมักจะนำหนู นก หรือแมลง ที่พวกมันจับมาได้ มาวางไว้ให้เจ้าของ ซึ่งทำให้เจ้าของหลายคนตกใจ และสงสัยว่าทำไม พวกมันถึงทำเช่นนี้
มีหนึ่งทฤษฎี ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ แมวมองว่าเจ้าของเป็น “ลูกแมวตัวใหญ่” ที่ไม่สามารถ ล่าสัตว์ด้วยตัวเองได้ ดังนั้นพวกมัน จึงนำอาหารมาให้ [3]
อีกทฤษฎีหนึ่งคือ พฤติกรรมนี้เป็นการฝึกสอน แมวแม่มักจะสอนลูกของมัน ให้ล่าสัตว์ โดยนำเหยื่อที่ยังมีชีวิต มาวางไว้ให้ลูกฝึก ดังนั้นแมวของเรา จึงอาจมองว่าเราเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว และต้องการสอนเรา ให้ล่าเหมือนกัน
แมวมักมีปฏิกิริยาไวต่อเสียง และการเคลื่อนไหว แม้กระทั่งสิ่งที่ดูไม่เป็นภัย อย่างของที่วางอยู่ใกล้ๆ นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าพฤติกรรมนี้ เกี่ยวข้องกับสัญชาตญาณ ในการระวังภัยจากนักล่า เนื่องจากแมว เป็นสัตว์ที่ต้องเอาตัวรอด โดยต้องอาศัยการตอบสนองที่รวดเร็ว
สรุป พฤติกรรมของแมว ยังคงเป็นปริศนา ที่วิทยาศาสตร์ ก็ยังไม่สามารถอธิบายได้ทั้งหมด อาจเป็นผลมาจากวิวัฒนาการ ประสาทสัมผัสที่ไวเป็นพิเศษ หรือสัญชาตญาณ ที่ตกทอดมาจากบรรพบุรุษ แต่ไม่ว่าเหตุผลจะเป็นอย่างไร แมวก็เป็นสัตว์เลี้ยง ที่สร้างความประหลาดใจ ให้กับเจ้าของเสมอ
พฤติกรรมนี้ของแมวเรียกว่า “Zoomies” ซึ่งอาจเกิดจากพลังงาน ที่สะสมไว้มากเกินไป หรือการตอบสนอง ต่อสิ่งเร้าที่เรามองไม่เห็น เช่น กลิ่นสัตว์ภายนอก หรือแรงสั่นสะเทือนบางอย่าง
นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่า แมวมองว่าเจ้าของ เป็นลูกแมวตัวใหญ่ ที่ไม่สามารถล่าสัตว์เองได้ หรือพวกมันอาจพยายามสอน ถึงทักษะการล่า ซึ่งเป็นพฤติกรรม ที่ถ่ายทอดมาจากบรรพบุรุษของมัน