อาร์ทิมิส นักล่า แห่งดวงจันทร์ พี่น้องฝาแฝดอะพอลโล
- J. Kanji
- 42 views
อาร์ทิมิส นักล่า แห่งดวงจันทร์ คือเทพีแห่งดวงจันทร์ การล่าสัตว์ และสัญลักษณ์ของอิสระ ในตำนานกรีก นางเป็นธิดาของซูส และยังเป็นฝาแฝด ของอะพอลโล ที่ถือคันธนูคู่ใจ เดินทางท่ามกลางป่าเขา พร้อมบทบาทผู้ปกป้องหญิงสาว และสรรพสัตว์ อาร์ทิมิสจึงเป็นภาพแทน ของพลังที่สงบนิ่ง แต่ไม่อ่อนแอ
อาร์เทมิส เป็นธิดาของ ซุส (Zeus) ราชาแห่งเทพ และ เลโต (Leto) เทพีผู้มีจิตใจอ่อนโยน และเป็นพี่สาวฝาแฝดของ อะพอลโล (Apollo) เทพแห่งแสงอาทิตย์ และศิลปะ เรื่องเล่ากล่าวว่า อาร์เทมิสถือกำเนิดขึ้น ก่อนน้องชายของเธอ บนเกาะเดลอส (Delos)
ซึ่งเป็นเกาะลอยน้ำ ที่ยอมให้เลโต อาศัยอยู่ในช่วงที่ถูก เทพีเฮรา ขับไล่ ในตำนานบอกว่า อาร์เทมิสเป็นเด็กหญิง ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว และเมื่อยังเป็นเพียงเด็กน้อย เธอได้ขอพรจากซุสพ่อของเธอ ให้มีชีวิตที่ไม่ต้องแต่งงาน มีฝูงสัตว์ให้ดูแล มีสาวบริสุทธิ์ติดตาม และอาศัยอยู่ในป่าลึก อันเงียบสงบ
ซึ่งซุสก็จัดให้ครบ แบบไม่ลังเลเลย เธอจึงกลายเป็น เทพีสาวนักล่า ผู้มีบริวารเป็นสาวพรหมจรรย์ และวิ่งโลดแล่น ในป่าเขาอย่างเสรี ไม่ต้องมีเจ้าชาย ไม่ต้องมีวังหรู เธอคือความงาม ในแบบของตัวเอง [1]
แม้ในยุคแรกอาร์ทิมิส จะเกี่ยวข้องกับป่า และการล่าสัตว์เป็นหลัก แต่เมื่อเวลาผ่านไป คนกรีกเริ่มมองเธอว่า เป็นเทพีที่มีความเกี่ยวข้อง กับดวงจันทร์ โดยเฉพาะเมื่อเปรียบเทียบ กับพี่ชายอย่าง “อะพอลโล” ที่เกี่ยวกับดวงอาทิตย์ อาร์ทิมิสจึงถูกยกให้เป็น เทพีแห่งดวงจันทร์
ซึ่งในสมัยต่อมา เธอก็ถูกรวมเข้ากับ เทพจันทราอื่น ๆ เช่น เซลีนี (Selene) และเฮคาที (Hecate) อาร์ทิมิสมักจะปรากฏตัว ในยามค่ำคืน พร้อมแสงจันทร์ ที่นุ่มนวลล้อมรอบเธอ เธอถือธนูอยู่ในมือ นำฝูงกวาง หรือสัตว์ป่า ที่จงรักภักดีตามเธอ อย่างสง่างาม
เธอจึงกลายเป็นสัญลักษณ์ ของความงามแบบลึกลับ เงียบขรึม และเปี่ยมด้วยพลังธรรมชาติ ที่ควบคุมไม่ได้
อาร์ทิมิสเป็นเทพี ที่รักธรรมชาติสุดหัวใจ และเธอไม่ชอบให้ใคร มารบกวนสัตว์ป่า หรือแหล่งธรรมชาติ ที่เธอปกป้องอยู่ โดยเฉพาะเรื่อง “ความบริสุทธิ์” ที่เธอยึดถือมาก ถ้าใครมาล่วงละเมิด ความเป็นส่วนตัว หรือแอบดูเธอขณะอาบน้ำ
แบบในเรื่องของ “แอกไทออน” (Actaeon) เธอก็ไม่ปรานีเลย เขาถูกสาปให้กลายเป็นกวาง และถูกสุนัขล่าของตัวเอง ขย้ำจนตาย อย่างโหดเหี้ยม [2]
ความบริสุทธิ์ในความหมาย ของอาร์ทิมิสนั้น ไม่ได้หมายถึงแค่ เรื่องทางเพศ แต่รวมถึงความเป็นอิสระ ทางจิตใจ และการไม่ยอมถูกควบคุม โดยสิ่งใด ๆ ด้วยเธอจึงกลายเป็น สัญลักษณ์ของผู้หญิง ที่เลือกใช้ชีวิต ในแบบของตัวเอง ไม่ยอมอยู่ใต้เงาของใคร แม้แต่เทพเจ้า หรือมนุษย์ก็ตาม
ฟังดูอาจแปลกที่เทพี ที่ไม่เคยแต่งงาน หรือมีลูก จะเป็นผู้คุ้มครองการคลอด แต่เหตุผลก็คือ ตอนที่แม่ของเธอเลโต คลอดอาร์ทิมิส เธอเจ็บปวดทรมานมาก แต่หลังจากคลอดอาร์ทิมิสแล้ว เด็กหญิงคนนี้ ก็โตเร็วผิดปกติ และช่วยทำคลอด ให้น้องชาย (อะพอลโล) ทันที
นับว่าเป็นปาฏิหาริย์ ที่แสดงถึงพลังของเธอ ตั้งแต่แรกเกิด จากเหตุการณ์นี้ เลยทำให้อาร์ทิมิส กลายเป็นเทพี ที่หญิงตั้งครรภ์มักจะขอพร ให้ช่วยปกป้อง ในระหว่างการคลอด
เพราะเชื่อว่า เธอเข้าใจถึงความยากลำบาก ของกระบวนการนั้น และพร้อมจะช่วยเหลือ อย่างเมตตา นอกจากนี้ เธอยังถือเป็นเทพี ที่ดูแลเด็กเล็ก และหญิงสาว ที่ยังไม่แต่งงานอีกด้วย
แอกไทออน (Actaeon) – นักล่าหนุ่ม ที่บังเอิญเห็นอาร์เทมิส อาบน้ำในป่า เธอจึงสาปให้เขา กลายเป็นกวาง และถูกสุนัขล่าเนื้อของตนเอง กระโจนใส่ และฉีกเขาเป็นชิ้น ๆ ตำนานนี้ สื่อถึงการละเมิด ความเป็นส่วนตัว และพลังในการปกป้อง ศักดิ์ศรีของตน
นิโอบี (Niobe) – ราชินีผู้โอ้อวดว่า ตนมีลูกมากกว่าเลโต และดูหมิ่นแม่ของอาร์เทมิส เธอและอะพอลโล จึงร่วมกันลงโทษนิโอบี โดยสังหารลูกของเธอจนหมด เป็นบทเรียนเรื่องความอ่อนน้อม และการไม่ท้าทายเหล่าเทพ
แคลลิสโต (Callisto) – หญิงสาว ในกลุ่มบริวารของอาร์ทิมิส ที่โดนซุสหลอก จนตั้งครรภ์ ทำให้โดนขับออกจากกลุ่ม และสุดท้ายกลายเป็น กลุ่มดาวหมีใหญ่บนฟ้า ตำนานนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความเคร่งครัด ในกฎของอาร์ทิมิส และผลลัพธ์ที่ตามมา จากการละเมิดคำมั่นสัญญา
อาร์เทมิสยังคง เป็นแรงบันดาลใจ ในหลายสื่อสมัยใหม่ ทั้งในหนังสือ ภาพยนตร์ เกม และแม้แต่ภารกิจของ NASA ที่ตั้งชื่อว่า “Artemis Program”
ซึ่งเป็นภารกิจที่จะพามนุษย์ กลับไปดวงจันทร์อีกครั้ง โดยให้เกียรติ แก่เทพีแห่งดวงจันทร์ ผู้ยิ่งใหญ่นี้ [3] เธอยังเป็นสัญลักษณ์ ของขบวนการสิทธิสตรี พลังของผู้หญิง และการกลับคืนสู่ธรรมชาติ ในยุคปัจจุบัน
สรุป อาร์ทิมิส ไม่ได้เป็นแค่เทพี ที่ถือธนูเดินป่า แต่เป็นตัวแทน ของความแข็งแกร่ง อิสรภาพ และความเป็นธรรมชาติ ในตัวของผู้หญิง เธอเป็นผู้หญิง ที่ไม่ยอมก้มหัวให้ใคร มีอุดมคติแรงกล้า และยังปกป้องคนอ่อนแอ อย่างเต็มที่ แถมยังเชื่อมโยง กับพลังลึกลับ ของดวงจันทร์อีกด้วย
อาร์ทิมิสเลือกชีวิตที่อิสระ และไม่ต้องการให้ใคร มากำหนดชีวิตเธอ เธอขอพรจากซุส ตั้งแต่ยังเด็กว่า จะไม่ต้องแต่งงาน ซึ่งสะท้อนถึงแนวคิด ความเป็นตัวของตัวเอง และความเข้มแข็ง ในการยืนหยัด ในอุดมคติของเธอ
เธอได้รับการนับถือ ว่าเป็นเทพีแห่งดวงจันทร์ เพราะมีความเชื่อมโยง กับพลังลึกลับ ในยามค่ำคืน เช่นเดียวกับที่อะพอลโล พี่ชายของเธอ เป็นเทพแห่งดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ยังเป็นสัญลักษณ์ ของพลังผู้หญิง ความลึกลับ และวัฏจักรชีวิต ที่วนเวียนอย่างมีจังหวะ ซึ่งเหมาะกับธรรมชาติ ของเธอมาก
