แหล่งรวมเกมส์ชั้นนำ สล็อต คาสิโน บาคาร่า พร้อมระบบล้ำทันสมัย รวดเร็วทันใจ

อุปนิสัย เจแปนนิส สปิตซ์ สุนัขที่มีเสน่ห์ น่าหลงใหล

อุปนิสัย เจแปนนิส สปิตซ์

อุปนิสัย เจแปนนิส สปิตซ์ เป็นสุนัขที่เสน่ห์ น่าหลงใหล ถือเป็นสุนัข ที่มีความโดดเด่น จากสายพันธุ์อื่นๆ เนื่องจากเป็นสุนัข ที่มีบุคลิกดี ดูสวยสง่างาม เป็นที่น่าสนใจ และดึงดูดผู้คนที่พบเห็น ซึ่งใครที่เห็นต่างก็พากันชื่นชม ว่าน้องหมาสายพันธุ์นี้ มีขนสีขาวบริสุทธิ์ แถมยังขนฟูนุ่มยาว ถือเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ที่ทาสสุนัขทั้งหลาย ตกหลุมรักได้อย่างง่ายดาย

มาทำความรู้จักกับสุนัข เจแปนนิสสปิตซ์

เจแปนนิสสปิตซ์ เป็นสุนัขสายพันธุ์ญี่ปุ่น เช่นเดียวกับ สุนัขสายพันธุ์ ชิบะอินุ โดยสุนัขทั้งสอง สายพันธุ์นี้ มีถิ่นกำเนิด ในประเทศญี่ปุ่น เหมือนกัน ซึ่งสุนัขสายพันธุ์ Japanese จะเป็นมิตรกับผู้อื่น และสามารถเข้ากับเด็กๆ ได้เป็นอย่างดี ซึ่งเหมาะสำหรับครอบครัว ที่มีเด็กอยู่ แถมน้องสุนัข ยังมีเสน่ห์ เข้ากับคนง่าย และชอบที่จะสร้างความผูกพัน อันใกล้ชิดกับครอบครัวมนุษย์

ข้อมูลจำเพาะ ของสุนัขเจแปนนิสสปิตซ์

  • ชื่อทั่วไป : เจแปนนิส สปิตซ์
  • ชื่อภาษาอังกฤษ : Japanese Spitz
  • ถิ่นกำเนิด : ประเทศญี่ปุ่น
  • อายุขัยเฉลี่ย : อายุประมาณ 10 -16 ปี
  • จัดอยู่ในกลุ่ม : Northern Breed
  • น้ำหนัก : ประมาณ 5-9 กิโลกรัม
  • ส่วนสูง : ประมาณ 30-38 เซนติเมตร
  • ลักษณะนิสัย : ขี้เล่น, แสนรู้, ว่านอนสอนง่าย, จงรักภักดี, เข้มแข็ง, รักใคร่
  • ลักษณะขน : ขนยาวสง่างาม
  • สีของขน : สีขาว

ที่มา: Japanese Spitz [1]

ประวัติทั่วไป ของสุนัขเจแปนนิสสปิตซ์

สุนัขพันธุ์นี้ มีเชื้อสายมาจาก German Spitz ซึ่งถูกนำเข้า ในช่วงปลายสงครามโลก ครั้งที่หนึ่ง แต่ไม่มีหลักฐาน ที่แน่ชัดเนื่องจากบันทึก ได้ถูกทำลาย ในช่วงสงคราม ครั้งที่สอง และสุนัขพันธุ์นี้ ปรากฏเป็นครั้งแรก ในดินแดนญี่ปุ่น ในปีคริสต์ศักราช 1921 ที่เมืองโตเกียว หลังจากนั้น นักเพาะพันธุ์สุนัข ได้มีการพัฒนา สายพันธุ์มาเรื่อยๆ จนมีผู้คนรู้จักกันมากขึ้น และได้รับความนิยม ในการเลี้ยงดู [2]

การดูแลน้องสุนัข เจแปนนิสสปิตซ์ ให้มีอายุที่ยืนยาว

อุปนิสัย เจแปนนิส สปิตซ์

เจแปนนิสสปิตซ์ เป็นสุนัขที่มีความมั่นใจ มีความฉลาด และกระตือรือร้น รวมถึงมีความคล่องแคล่ว แข็งแรง ทำอะไรกระฉับกระเฉง แถมยังค่อยระแวดระวัง สิ่งที่อยู่รอบตัว ซึ่งเหมาะสำหรับ การนำมาเลี้ยงในบ้านมาก เนื่องจากน้องสุนัข มีนิสัยชอบเห่า เวลาเจอคนแปลกหน้า น้องจะเห่าทุกครั้ง เพื่อค่อยเตือนภัย

ลักษณะทั่วไปของสุนัข เจแปนนิสสปิตซ์

ลักษณะทางกายภาพ : น้องสุนัขสายพันธุ์นี้ จะมีโครงสร้างร่างกาย ที่แข็งแรง สมส่วน มีขนดกหนา และมีขนยาว สีขาวบริสุทธิ์ จมูกและปากแหลม หูทรงสามเหลี่ยมตั้งตรง หางฟูสวย แลดูสง่างาม [3]

ลักษณะอุปนิสัย : น้องสุนัขพันธุ์สายพันธุ์นี้ จะเป็นสุนัขที่มีนิสัยดี ไม่ดุร้าย และเป็นมิตรต่อสัตว์อื่นๆ น้องจะมีความฉลาด ร่าเริง และขี้เล่น รวมถึงเป็นสุนัข ที่มีความมั่นใจ มีความกระตือรือร้น คล่องแคล่วว่องไว และค่อนข้างแข็งแรง

การดูแลน้องสุนัข เจแปนนิสสปิตซ์ ให้มีสุภาพดี

การ Grooming : ถือเป็นเรื่อง ที่สำคัญ ในการดูแลสุนัข เพราะว่าน้องหมา มีขนสีขาว ที่งดงาม ทำให้ต้องบำรุง รักษาขนสม่ำเสมอ

การแปรงขน : สุนัขพันธุ์นี้ มีขนสองชั้น การแปรงขนเป็นประจำ อย่างน้อย 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ ถือเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อป้องกัน ขนพันกัน และกำจัด ขนที่หลุดร่วงไปด้วย

การอาบน้ำ : ซึ่งสุนัขสายพันธุ์นี้ ไม่จำเป็นต้องอาบน้ำบ่อย โดยทั่วแล้วควรอาบทุกๆ 2-3 เดือน แต่ถ้าสุนัข สกปรกมากๆ ให้เจ้าของ ทำการอาบน้ำ ให้โดยทันทีเลย

การดูแลช่องปาก : สุขอนามัยทันตกรรม เป็นสิ่งสำคัญ สำหรับสุนัขทุกสายพันธุ์ และการแปรงฟัน เป็นเรื่องที่ควร เพื่อป้องกันปัญหา ในช่องปาก และรักษาสุขภาพ โดยรวมของน้องหมา

ที่มา: ลักษณะสายพันธุ์และนิสัยของเจแปนนิส สปิตซ์ (Japanese Spitz) [4]

สรุป เจแปนนิสสปิตซ์ สัตว์เลี้ยงผู้แสนรู้

สรุป เจแปนนิสสปิตซ์ น้องสุนัขผู้อารมณ์ดี มีจิตใจดี เป็นมิตรต่อผู้คน หรือสัตว์อื่นๆ น้องสุนัขสายพันธุ์นี้ มีลักษณะรูปร่างหน้าตาที่สวย บวกกับขนยาวขาว สีขาวบริสุทธิ์ที่ดู สง่างดงาม เป็นที่ชื่นชอบ ของผู้คนที่พบเห็น แถมยังฉลาด และเหมาะสำหรับ เลี้ยงไว้ในบ้าน

สุนัขเจแปนนิสสปิตซ์ มีค่าตัวเท่าไร

น้องสุนัขสายพันธุ์นี้ จะมีค่าตัวน้อง ตั้งแต่หลักพัน ไปจนถึงหลักหมื่น โดยมีราคา 5,000-20,000 บาทเป็นต้นไป ราคาถือว่าค่อนข้างแพง แต่ก็ขึ้นอยู่กับ ค่าตัวของน้องสุนัข แต่ละตัวด้วย

ทำไมคนถึงนิยมเลี้ยง สุนัขเจแปนนิสสปิตซ์

น้องสุนัขสายพันธุ์นี้ มีนิสัยดี เป็นมิตรกับผู้อื่น มีความซื่อสัตย์ จงรักภักดีต่อเจ้าของมาก มีอารมณ์ขัน ขี้เล่น และใจดี แถมยังมีหน้าตา ที่น่ารักน่าเอ็นดู และเหมาะสำหรับ ครอบครัวที่มีเด็ก เพราะน้องสามารถเล่นกับเด็ก และเป็นเพื่อนเล่น กับเด็กๆ ได้เป็นอย่างดี

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน

แหล่งอ้างอิง