
เจาะชีวิตจริง นักกีฬาบาส จากโรงเรียนเล็กสู่ทีมชาติ
- Harry P
- 41 views
เจาะชีวิตจริง นักกีฬาบาส “โอม – ชนาธิป จักรวาฬ” นักบาสทีมชาติไทย ที่เริ่มต้นด้วยหัวใจนักสู้ เขาเคยถูกล้อเรื่องรูปร่าง ถูกมองข้ามจากระบบกีฬา แต่กลับกลายเป็นนักบาสไทยคนแรกๆ ที่ได้เซ็นสัญญา กับทีมต่างชาติ นี่ไม่ใช่แค่เรื่องของกีฬา แต่นี่คือเรื่องของพลังศรัทธาในตัวเอง ที่เปลี่ยนชีวิตทั้งชีวิตได้
เจาะชีวิตจริง นักกีฬาบาส โอม ชนาธิป จักรวาฬ ในวัยเด็กของเขา ที่ไม่มีใครคาดคิด ว่าเด็กชายจากจังหวัดลำปางคนนี้ จะกลายเป็นหนึ่ง ในนักบาสเกตบอลไทย ที่ได้ไปโลดแล่น ในลีกระดับสากลของไต้หวัน โอมเติบโตขึ้นมา ในสภาพแวดล้อม ที่เรียบง่าย ไม่ได้มีทรัพยากรด้านกีฬา เหมือนเด็กในเมือง
ไม่เคยถูกคัดเลือก ให้เข้าระบบเยาวชนตั้งแต่ต้น แต่เหมือนกับ นักสู้หลายคนในชีวิตจริง โอมเริ่มต้นจาก “ศูนย์” และเดินไปเรื่อยๆ ด้วยพลังใจล้วนๆ เขาเคยถูกเพื่อนล้อเรื่องรูปร่าง และความสูง ความมั่นใจในตัวเอง แทบไม่มี และใช้เวลาหลังเลิกเรียน ไปกับการเล่นเกมออนไลน์เป็นหลัก
ซึ่งเป็นชีวิต แบบที่เด็กจำนวนมาก อาจหลงเข้าไป แต่โชคดีที่มีเพื่อนคนหนึ่ง ชวนเขาให้ลองออกไปเล่นบาส ในสนามของโรงเรียน และจากวินาทีนั้น ชีวิตของโอม ก็เริ่มหมุนไปในอีกทิศทางหนึ่ง [1]
โรงเรียนประชาวิทย์ ในลำปาง ไม่ได้มีชื่อเสียงด้านกีฬา แต่ที่นั่นกลับมีครู ที่มองเห็นศักยภาพในตัวโอม ครูบาสของโรงเรียน ได้เริ่มฝึกเขา อย่างจริงจัง และแม้จะไม่มีสนามมาตรฐาน ไม่มีเครื่องมือซ้อม ระดับมืออาชีพ แต่โอมก็ไม่เคยบ่น เขาเริ่มฝึกอย่างจริงจัง และตั้งเป้าว่า “จะต้องเก่งขึ้นในวันพรุ่งนี้เสมอ”
ไม่นานนัก ฟอร์มของเขาก็เริ่มฉายแวว ในการแข่งขันเยาวชน ระดับภูมิภาค เขากลายเป็นผู้เล่น ที่ทำแต้มได้มากที่สุดของทีม แม้จะยังห่างไกล จากมาตรฐานระดับประเทศ แต่ใจของเขา ก็ทำให้หลายคนเริ่มหันมามอง
และในปีต่อมา เขาได้รับการติดต่อ จากโรงเรียนกีฬาอันดับต้นของไทย โรงเรียนอัสสัมชัญธนบุรี ซึ่งเป็นหนึ่งในโรงเรียนพันธมิตร ของสโมสรไฮเทค บาสเกตบอล คลับ ที่มีระบบฝึกฝนแบบอาชีพ นี่คือการก้าวกระโดดครั้งใหญ่ ที่เด็กชายจากลำปาง ไม่เคยฝันมาก่อน ว่าจะมีโอกาสได้สัมผัส
เมื่อได้เข้าเรียน ที่อัสสัมชัญธนบุรี ชีวิตของโอมก็เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง เขาต้องฝึกซ้อมอย่างเข้มข้น เกือบทุกวัน ปรับตัวให้เข้ากับความกดดัน ในการแข่งขัน ฝึกทั้งร่างกาย และจิตใจ ในระบบระดับมืออาชีพ ในช่วงแรกเขารู้สึกหมดแรง และมีความคิด ที่จะยอมแพ้แต่ความรักในบาส ที่เริ่มฝังรากในใจเขามานาน
ทำให้เขาตัดสินใจ “สู้” ต่อ หลังจากพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เขาได้รับการเลื่อนขั้น ให้เข้าสู่ทีมเยาวชน ของสโมสรไฮเทค และได้เป็นหนึ่งในนักกีฬารุ่นใหม่ ที่ถูกผลักดัน ให้เข้าสู่รายการแข่งขัน ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาค ABL (ASEAN Basketball League) ในปี 2022
ซึ่งเขาสร้างสถิติเป็น “ผู้เล่นอายุน้อยที่สุด” ของทีมไฮเทค ที่ได้ลงเล่นในลีกอาเซียน ด้วยวัยเพียง 18 ปี การได้ลงเล่นใน ABL คือหลักฐานของความพยายาม ที่สะสมมา ไม่ใช่เพราะเขาสูงที่สุด หรือมีพรสวรรค์ที่สุด แต่เพราะเขา ไม่เคยหยุดซ้อม ไม่เคยหยุดเชื่อ ว่าตัวเองสามารถ “ไปได้ไกลกว่าเดิมเสมอ” [2]
ความโดดเด่นของโอมใน ABL ไม่ได้ถูกมองแค่ในประเทศ แต่ไปเข้าตาทีมจากต่างประเทศ สโมสร New Taipei CTBC DEA จากลีก P. LEAGUE+ ของไต้หวัน ติดต่อโอม ให้ไปร่วมทีมในสัญญา 8 เดือน โดยเสนอค่าตอบแทน ที่แตะหลักแสนบาทต่อเดือน
ซึ่งถือเป็นหนึ่งในสัญญา ที่ดีที่สุดเท่าที่นัก บาสไทย เคยได้รับในช่วงอายุระดับนี้ โอมตัดสินใจบินข้ามประเทศ เพื่อไปพิสูจน์ฝีมือ ในลีกอาชีพต่างแดน เขาเริ่มฝึกซ้อม ในระบบที่เข้มข้นยิ่งกว่าเดิม ต้องต่อสู้กับนักกีฬาต่างชาติ ที่ตัวใหญ่กว่า เร็วกว่า มีประสบการณ์มากกว่า
แต่โอมก็ยังใช้จุดแข็งเดิม ความอดทน ความขยัน และการไม่ยอมแพ้ เพื่อยืนหยัดในสนามให้ได้ต่อไป การเป็นนักบาสต่างแดน ในวัยเพียง 19 ปี ไม่ใช่เรื่องเล็กเลย สำหรับเด็กจากลำปาง ที่ครั้งหนึ่งเคยติดเกม อยู่ในห้องเงียบๆ เพื่อลืมเสียงบูลลี่ในโรงเรียน [3]
แม้จะประสบความสำเร็จ ในต่างประเทศ แต่โอมก็ไม่เคยลืมบ้านของตัวเอง เขากลับไปเยี่ยมโรงเรียนประชาวิทย์เสมอ และมักจะไปร่วมกิจกรรม กับเด็กๆในพื้นที่
จัดกิจกรรมบาสเล็กๆ แนะนำทักษะพื้นฐาน และที่สำคัญก็คือ การแบ่งปันเรื่องราวของตัวเอง ให้เด็กๆฟัง เพื่อให้พวกเขารู้ว่า การไม่มีสนามมาตรฐาน ไม่ได้แปลว่าไม่มีทางไปถึงจุดสูงสุด
เขายังเคยให้สัมภาษณ์ว่า
“ผมเชื่อว่าคนเราทุกคนมีศักยภาพ ไม่ว่าเราจะมาจากที่ไหน ถ้าเราพยายามมากพอ เราก็จะเปลี่ยนชีวิตตัวเองได้จริงๆ”
โอมคือนักกีฬาไทย ที่ไม่ได้มีแค่ฝีมือ แต่มีหัวใจนักสู้ และกลายเป็นแรงบันดาลใจ ให้กับเด็กๆ ในโรงเรียนเล็กๆ ทั่วประเทศ ที่อาจกำลังฝันในสิ่งเดียวกัน กับที่เขาเคยฝัน ฝันที่อาจเริ่มต้นเล็กๆ แต่ถ้ามีใจมากพอ มันจะกลายเป็นจริงได้ในที่สุด
จึงกล่าวได้ว่า เรื่องราวของ “โอม” ชนาธิป จักรวาฬ คือภาพสะท้อน ของนักกีฬาไทยรุ่นใหม่ ที่ไม่ต้องเริ่มต้นจากสถาบันหรู หรือระบบฝึก ที่สมบูรณ์แบบ แต่เขาสามารถสร้างเส้นทางของตัวเองจาก “ศูนย์” และพาไปถึง “จุดสูงสุด” ได้ด้วยความมุ่งมั่นล้วนๆ
การได้เข้าเรียน ที่โรงเรียนอัสสัมชัญธนบุรี ซึ่งมีระบบฝึกบาส แบบมืออาชีพ และเป็นพันธมิตรของสโมสรไฮเทค คือจุดเปลี่ยนที่สำคัญที่สุด ที่นั่นเขาได้ฝึกหนัก เรียนรู้ความเป็นนักกีฬาอย่างแท้จริง และต่อยอด ไปสู่การติดทีมเยาวชน จนได้ลงแข่งใน ABL กับทีมไฮเทค
โอมอาจไม่ได้มีพรสวรรค์ ที่โดดเด่นที่สุด แต่สิ่งที่ทำให้เขาโดดเด่นคือ “ใจนักสู้” ความอดทน ความขยัน และไม่ยอมแพ้ เขาเชื่อมั่นในตัวเอง แม้จะมาจากที่เล็กๆ และเดินหน้าพิสูจน์ตัวเองในทุกโอกาสที่ได้รับ จนไปถึงเวทีระดับนานาชาติ