
แมวผู้มีใบหู ทรงประหลาด ไฮแลนเดอร์แห่งขุนเขา
- Harry P
- 69 views
แมวผู้มีใบหู ทรงประหลาด “ไฮแลนเดอร์” (Highlander) สายพันธุ์แมวที่ดูแปลกตา และน่าหลงใหล ไม่ใช่เพียงแค่รูปลักษณ์เท่านั้น ที่ดึงดูด แต่ยังรวมถึงประวัติที่น่าสนใจ และเรื่องราวเบื้องหลัง ที่ทำให้แมวสายพันธุ์นี้ กลายเป็นหนึ่งใน “อัญมณีแห่งขุนเขา” ที่ใครได้รู้จักแล้ว จะต้องตกหลุมรักอย่างแน่นอน
แมวผู้มีใบหู ทรงประหลาด แมวสายพันธุ์ไฮแลนเดอร์ (Highlander) ถือกำเนิดขึ้น ในช่วงต้นทศวรรษ 1990 ในสหรัฐอเมริกา จากความตั้งใจ ของเหล่าผู้เพาะพันธุ์ ที่ต้องการสร้างแมว ที่มีลักษณะภายนอก โดดเด่นเหมือนสัตว์ป่า
แต่ยังคงมีนิสัยอ่อนโยน เป็นมิตร เหมาะกับการเลี้ยงในบ้าน สายพันธุ์นี้จึงถือกำเนิดขึ้น จากการผสมระหว่าง แมวจังเกิ้ลเคิร์ล (Jungle Curl) และแมวบ้านหลายสายพันธุ์ (Domestic cats)
ในช่วงแรกของการพัฒนา แมวพันธุ์นี้ถูกเรียกว่า “Highlander Lynx” เพื่อเน้นถึงลักษณะ ที่คล้ายแมวป่าลิงซ์ (Lynx) ทั้งหูที่งุ้มแปลกตา ร่างกายแข็งแรง และพฤติกรรมบางอย่าง ที่แฝงความซุกซนเหมือนสัตว์ป่า [1]
ในเวลาต่อมา เพื่อให้การจำแนกสายพันธุ์ชัดเจน และเป็นทางการ ชื่อจึงถูกย่อให้เหลือเพียง “Highlander” และได้รับการยอมรับ อย่างเป็นทางการจาก The International Cat Association (TICA) ในปี 2008
ในฐานะแมวสายพันธุ์ใหม่ ที่อยู่ระหว่างการพัฒนา (Preliminary New Breed) และในปี 2016 ก็ได้รับการยอมรับ ในระดับ “Advanced New Breed”
แมวไฮแลนเดอร์ขึ้นชื่อเรื่อง “หูที่งุ้มโค้ง” ไปด้านหลัง โดยไม่ได้เกิดจาก ความผิดปกติ แต่เป็นลักษณะทางพันธุกรรม ที่ตั้งใจพัฒนาให้เกิดขึ้น เพื่อความสวยงาม หูที่งุ้มนี้ ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องหมาย ทางการค้าเท่านั้น แต่ยังทำให้มัน มีรูปลักษณ์ที่ดูสง่างาม และน่าแปลกตา
ลักษณะเฉพาะนอกจากหู ที่ทำให้ไฮแลนเดอร์แตกต่างจากแมวทั่วไป
บุคลิกของไฮแลนเดอร์ ช่างขัดแย้ง กับรูปลักษณ์ภายนอกของมัน อย่างน่าประหลาดใจ แม้จะมีรูปร่างกำยำ และลักษณะที่ดูคล้ายแมวป่า แต่ภายในกลับเต็มไปด้วยความอบอุ่น อ่อนโยน และเป็นมิตรจนน่าเอ็นดู เสมือนขุนเขายิ่งใหญ่ ที่ดูแข็งแกร่งแต่แฝงไว้ด้วยความสงบ
ไฮแลนเดอร์เป็นแมวที่ฉลาด หลายตัวสามารถเรียนรู้คำสั่งง่ายๆ ได้อย่างรวดเร็ว เช่น การเรียกชื่อแล้วเดินมาหา การนั่ง หรือการฝึกเดินด้วยสายจูง เหมือนสุนัข บางตัวอาจชอบเล่นเกมง่ายๆ กับเจ้าของ อย่างซ่อนหา หรือฝึกเอาของกลับมา ซึ่งเป็นพฤติกรรม ที่พบได้ไม่บ่อยนัก ในแมวบ้านทั่วไป [3]
แม้ไฮแลนเดอร์ จะมีรูปลักษณ์แบบสัตว์ป่า แต่การดูแล กลับไม่ได้ยุ่งยากอย่างที่คิด เพียงแปรงขนสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง ไม่ว่าจะเป็นขนสั้น หรือขนยาว เพื่อรักษาความสะอาด และสุขภาพผิวหนัง ควรจัดให้มีการออกกำลังกาย อย่างสม่ำเสมอ ผ่านของเล่น หรือกิจกรรมในบ้าน
อย่างการให้ปีนป่าย หรือให้เล่นไล่จับ ร่วมกับการให้อาหารคุณภาพดี เพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อ อันเป็นลักษณะเด่นของสายพันธุ์ และควรตรวจสุขภาพ พร้อมรับวัคซีนอย่างสม่ำเสมอ เช่นเดียวกับแมวทุกตัว
ไม่ว่าจะด้วยใบหูที่งุ้ม เหมือนสายลมที่โบกพัด บนยอดดอย ดวงตาใสวาว ที่สะท้อนแสงตะวันยามเช้า หรือพฤติกรรมขี้อ้อน ที่ทำให้หัวใจละลาย ไฮแลนเดอร์คือตัวแทนของ “ความกลมกล่อมระหว่างป่าและบ้าน” อย่างแท้จริง
มันคือแมว ที่หลอมรวมความดิบ ของธรรมชาติ เข้ากับความละมุน ของความเป็นเพื่อนร่วมชีวิต ได้อย่างลงตัว และในโลกที่เต็มไปด้วยแมว หลากสายพันธุ์ ไฮแลนเดอร์ยังคงยืนหยัด การเป็นแมวที่ไม่เหมือนใคร คล้ายเสียงลมแห่งขุนเขา ที่พัดผ่านมา แล้วทำให้เราหันไปมอง อย่างตกหลุมรักในทันที
เป็นอันว่า แมวผู้มีใบหู ทรงประหลาด แปลกตาแต่ไม่แปลกแยก เมื่อเรานำทุกอย่างมารวมกัน ไฮแลนเดอร์จึงเป็นเสมือน สายลมอบอุ่น ที่พัดผ่านยอดเขา มอบความสุข ความสนุก และความสงบ มันก็เป็นสัตว์เลี้ยงตัวหนึ่ง เป็นเพื่อนแท้ ที่พร้อมอยู่เคียงข้างคุณ ด้วยหัวใจที่เปิดกว้างเสมอ
ไม่ใช่ความผิดปกติแต่อย่างใด หูที่งุ้มของไฮแลนเดอร์ เป็นลักษณะเฉพาะ ทางพันธุกรรม ที่ถูกพัฒนาขึ้นโดยตั้งใจ เพื่อให้แมวดูโดดเด่น และสวยงาม ในแบบที่ไม่เหมือนใคร โดยไม่มีผลกระทบ ต่อการได้ยิน หรือสุขภาพของแมว แต่ก็ควรต้องเลือกจากผู้เพาะพันธุ์ ที่ดูน่าเชื่อถือ
โดยรวมไม่ได้ดูแลยาก เพียงแค่แปรงขนเป็นประจำ (สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง) ให้ออกกำลังกายอย่างพอเหมาะ และให้อาหารคุณภาพดี จุดที่ควรใส่ใจเป็นพิเศษ คือการตรวจสุขภาพประจำปี และระวังเรื่องน้ำหนัก เพราะแมวพันธุ์นี้ มีกล้ามเนื้อเยอะ อาจต้องให้พื้นที่ สำหรับปีนป่าย หรือเล่นระบายพลังงาน