แหล่งรวมเกมส์ชั้นนำ สล็อต คาสิโน บาคาร่า พร้อมระบบล้ำทันสมัย รวดเร็วทันใจ

แมว กับผู้สูงอายุ พลังการเยียวยาที่ไม่ต้องใช้คำพูด

แมว กับผู้สูงอายุ

แมว กับผู้สูงอายุ ในช่วงวัยที่ชีวิตเริ่มช้าลง หลายคนอาจพบว่าโลกภายนอก เริ่มเคลื่อนที่เร็วเกินไป ผู้คนรอบข้างเริ่มห่างหาย และความโดดเดี่ยว ก็จะค่อยๆเข้ามาแทนที่ แต่ในวันที่โลกดูเงียบเหงาเกินไปนั้น การที่มีแมวสักตัว นั่งอยู่ข้างๆ ก็พอจะทำให้ใจรู้สึกว่า เรายังไม่ได้อยู่คนเดียว

  • แมวช่วยลดความเหงาในผู้สูงอายุ
  • แมวช่วยฟื้นฟูความทรงจำในผู้ป่วยอัลไซเมอร์
  • ข้อดีของผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่กับสัตว์เลี้ยง

การเยียวยาทางใจ ที่ไม่ต้องสั่งจ่ายจากคุณหมอ

มีงานวิจัยหลายชิ้นที่ชี้ว่า การอยู่ร่วมกับสัตว์เลี้ยง สามารถลดระดับความดันโลหิต คลายความเครียด และเพิ่มระดับ สารแห่งความสุขในร่างกาย อย่างออกซิโทซิน (Oxytocin) โดยเฉพาะในผู้สูงวัย ที่อาจอยู่ตามลำพัง

การมีแมวอยู่ใกล้ๆ จะช่วยให้ชีวิตมีจังหวะ มีความหมาย แม้ในวันที่ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยก็ตาม บางคนตื่นเช้ามาเพียงเพื่อจะได้ลูบขนแมว และดูว่าแมวต้องการอะไร นั่นอาจเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้พวกเขา รู้สึกว่าตนเองยังมีบทบาท ยังมีความสำคัญ และยังเป็นที่ต้องการในโลกใบนี้ [1]

ความสัมพันธ์ที่ก่อขึ้นจากการให้ และรับอย่างเงียบๆ

แมว กับผู้สูงอายุ เป็นความสัมพันธ์ที่ไม่เร่งรัด ไม่หวือหวา แต่นุ่มนวล และแน่นแฟ้น มันไม่ได้เกิดจากกิจกรรมหวือหวา หรือคำพูดสวยหรู แต่มาจากการอยู่ร่วมกัน ในความเงียบ ที่เต็มไปด้วยความหมาย

ผู้สูงวัยหลายคน เล่าเหมือนกันว่า แมวจะรู้ เวลาเจ้าของไม่สบายใจ และจะเดินมานั่งข้างๆ หรือขึ้นมานอนบนตัก โดยไม่ต้องเรียก มีหลายกรณี ที่แมวรู้ล่วงหน้า เมื่อเจ้าของป่วย หรือกำลังเศร้า มันอาจไม่ได้เข้าใจ ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่มันรู้ว่า “ตอนนี้ฉันควรอยู่ตรงนี้”

แมวคือเส้นบางๆ ที่เชื่อมโยงกับโลกภายนอก

แมว กับผู้สูงอายุ

เมื่อคนสูงอายุ เริ่มเคลื่อนไหวได้น้อยลง หรือเริ่มปลีกตัวจากสังคม การมีแมวอยู่ในบ้าน เป็นเหมือนเชือกเส้นสุดท้าย ที่เชื่อมโยงพวกเขา ไว้กับโลกภายนอก

การไปซื้ออาหารแมว การพาแมวไปหาหมอ หรือแม้แต่การคุยกับเพื่อนบ้าน เรื่องพฤติกรรมของแมว คือกิจกรรมเล็กๆ ที่กลายเป็นจุดเชื่อมต่อ ที่มีความหมาย

แมวกับการฟื้นฟูความทรงจำ ในผู้ป่วยอัลไซเมอร์

ในบ้านพักคนชราหลายแห่ง ในต่างประเทศ เริ่มมีการนำแมว เข้าไปอยู่ร่วมกับผู้สูงอายุ เพราะพบว่าอัตราการซึมเศร้า และการแยกตัวลดลง อย่างชัดเจน เมื่อมีแมวอยู่ใกล้ๆ แม้ในผู้ป่วยอัลไซเมอร์ หรือโรคหลงลืม ที่การรักษาอาการของโรคนี้ ไม่ใช่เพียงเรื่องของยา แต่คือการประคองใจของผู้ป่วย

ให้ยังมีบางอย่างที่ “คุ้น” อยู่รอบตัว และแมว กลับกลายเป็นตัวช่วย ที่น่าอัศจรรย์ในจุดนี้ มีรายงานจากศูนย์ดูแลผู้สูงอายุทั่วโลกว่า ผู้ป่วยอัลไซเมอร์ที่อยู่กับแมว มีพัฒนาการด้านอารมณ์ที่ดีขึ้น พวกเขาเริ่มยิ้ม เริ่มเรียกชื่อแมว หรือเล่าเรื่องแมว ที่เคยเลี้ยงเมื่อยังเด็ก ทั้งที่ไม่สามารถจำชื่อลูกหลานตัวเองได้

การปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้ป่วยกับแมว ไม่ได้เกิดจากความเข้าใจเชิงภาษา แต่เกิดจากความรู้สึก ความไว้วางใจ และความผูกพัน ที่ดำรงอยู่ในระดับลึกของจิตใจ เมื่อไม่มีความกดดัน ของการสื่อสารด้วยคำพูด ความสัมพันธ์นี้จึงเป็น “สะพาน” ที่พาผู้ป่วย กลับไปแตะช่วงเวลาเก่าๆ ได้อีกครั้ง [2]

แมวไม่กลัวความแก่ ไม่กลัวความชรา

ในโลกที่คนสูงอายุ มักถูกมองข้าม หรือรู้สึกว่าตนเองเป็นภาระ แมวคือสิ่งมีชีวิตที่ไม่สนใจ ว่าเจ้าของจะเดินช้า แก่ หรือหลงๆ ลืมๆ พวกมันยังคงปีนขึ้นไปนอนตัก ยังคลอเคลีย ยังต้องการความรักจากคนๆเดิม ไม่เปลี่ยนแปลง

ตรงนี้เอง ที่แมวกลายเป็นเหมือนกระจก สะท้อนคุณค่าความเป็นมนุษย์ ของผู้สูงอายุ ที่อาจถูกสังคมหลงลืมไปแล้ว แต่ยังคงมีความหมาย สำหรับอีกชีวิตหนึ่ง

มุมมองจากจิตวิทยา และเวชศาสตร์ผู้สูงอายุ

แมว กับผู้สูงอายุ

แมว กับอารมณ์มนุษย์ จากแนวคิดทางจิตวิทยา โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงวัย การมี “สิ่งมีชีวิตอื่น” อยู่ร่วมด้วย สามารถช่วยลดความรู้สึกโดดเดี่ยว และภาวะซึมเศร้า ได้อย่างมีนัยสำคัญ

งานวิจัยจาก American Psychological Association (APA) และมหาวิทยาลัย ในยุโรปหลายแห่งยืนยันว่า การสัมผัสสัตว์ เช่น การลูบขนแมว ช่วยกระตุ้นระบบประสาทพาราซิมพาเธติก ทำให้รู้สึกสงบ และปลอดภัย

แพทย์ด้านเวชศาสตร์ผู้สูงอายุบางรายยังสนับสนุน ให้ผู้ป่วยที่มีอาการเครียดเรื้อรัง หรือปัญหาด้านความจำ ได้สัมผัส และมีปฏิสัมพันธ์กับสัตว์เลี้ยง โดยเฉพาะสัตว์ที่มีนิสัยสงบอย่างแมว จะสามารถกระตุ้น ให้เกิดการตอบสนองทางอารมณ์ โดยไม่ต้องใช้ภาษา ซึ่งเหมาะมาก กับผู้ป่วยสมองเสื่อมระยะเริ่มต้น

แนวโน้มนโยบายการใช้แมว ในบ้านพักคนชรา

ในต่างประเทศ โดยเฉพาะสหรัฐฯ ญี่ปุ่น และเยอรมนี มีแนวทางที่เรียกว่า Pet-Friendly Nursing Homes หรือ Animal-Assisted Living ซึ่งเปิดให้ผู้สูงอายุ สามารถพาสัตว์เลี้ยงมาอยู่ด้วยได้ หรือให้มีสัตว์เลี้ยงประจำบ้าน เช่น แมวหรือสุนัข ที่อาศัยร่วมกับผู้พักอาศัย ได้อย่างเป็นระบบ

มีการวางแผนด้านสุขอนามัย และความปลอดภัยอย่างชัดเจน แนวโน้มนี้เริ่มขยับเข้ามา ในประเทศแถบเอเชียมากขึ้น และหลายโครงการบ้านพักคนชรา เริ่มมีการศึกษาความเป็นไปได้ ในการเลี้ยงแมว ร่วมกับผู้สูงวัย โดยไม่ให้เป็นภาระจนเกินไป [3]

บทบาทของแมวในแนวคิด “Active Aging”

องค์การอนามัยโลก (WHO) ผลักดันแนวคิด Active Aging คือการส่งเสริมให้ผู้สูงอายุ มีชีวิตที่มีคุณภาพ แม้เข้าสู่วัยเกษียณ การมีสัตว์เลี้ยง โดยเฉพาะแมว ซึ่งต้องการการดูแลในระดับพอเหมาะ ไม่มากเกินไป ไม่อิสระเกินไป ถูกมองว่าเป็นตัวกระตุ้นให้เกิด “กิจวัตร” ที่ส่งผลดีต่อร่างกาย และจิตใจ

แมวอาจไม่จำเป็นต้องพาไปเดินทุกวัน เหมือนสุนัข แต่การดูแลเรื่องอาหาร ความสะอาด และการปฏิสัมพันธ์เล็กๆ น้อยๆ ในแต่ละวัน ก็เพียงพอแล้ว ที่จะทำให้ผู้สูงอายุ ยังคงรู้สึก “ตื่นขึ้นมาแล้วมีอะไรให้ทำ มีใครบางตัวที่รออยู่”

จึงกล่าวได้ว่า แมว กับผู้สูงอายุ ไม่ใช่แค่สัตว์กับเจ้าของ

ผลก็คือ แมวไม่ได้มาเพื่อเยียวยา แต่มันกลับทำได้ สิ่งมีชีวิตที่เข้าใจจังหวะของชีวิต และรู้ว่าบางครั้ง การอยู่เฉยๆ ก็สามารถเปลี่ยนแปลงใครบางคนได้ สำหรับผู้สูงอายุ แมวคือเพื่อน คือความหมายของการตื่นขึ้นในทุกๆวัน และแมวไม่เคยกลัวความเงียบ นั่นคือเหตุผล ที่มันเข้าใจหัวใจที่เงียบเหงา ได้ดีกว่าใคร

แมวมีบทบาทอย่างไรในการช่วยผู้ป่วยอัลไซเมอร์ ?

การอยู่ใกล้แมว จะช่วยกระตุ้นความทรงจำเก่าๆ ผ่านการสัมผัส และความรู้สึกที่ไม่ต้องใช้ภาษา ส่งผลให้ผู้ป่วยอัลไซเมอร์ มีพัฒนาการด้านอารมณ์ดีขึ้น เช่น การยิ้ม หรือการเรียกชื่อแมวได้

แนวคิด Active Aging กับการเลี้ยงแมวเกี่ยวข้องกันยังไง ?

การดูแลแมวในชีวิตประจำวัน เช่นให้อาหาร ลูบขน หรือดูแลเรื่องสุขภาพ ช่วยกระตุ้นกิจวัตรที่มีความหมาย ช่วยให้ผู้สูงอายุมีเป้าหมายเล็กๆ ในแต่ละวัน และส่งเสริมสุขภาพกาย และใจตามแนวคิด Active Aging ขององค์การอนามัยโลก

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน

แหล่งอ้างอิง