
แมว อดีตราชวงศ์ แมวชนชั้นสูงในประวัติศาสตร์
- Harry P
- 22 views
แมว อดีตราชวงศ์ ในโลกใบนี้ หากจะมีสัตว์ชนิดใด ที่สามารถเดินผ่านรั้วของกษัตริย์ และผู้นำ โดยไม่ต้องโค้งคำนับ ก็คงเป็นแมว สัตว์ที่เปี่ยมไปด้วยความสง่างาม ในแบบที่ไม่ต้องการ การรับรองจากใคร และในประวัติศาสตร์จริงๆ ก็มีแมวบางสายพันธุ์ ที่ใช้ชีวิตในฐานะ “อดีตราชวงศ์” ได้อย่างเต็มภาคภูมิ
แมวพม่า หรือที่รู้จักกันในนามว่า เบอร์มีส (Burmese) และอีกสายพันธุ์หนึ่ง ที่มีเรื่องเล่าแฝงตำนานไว้ไม่ต่างกันคือ แมวเบอร์แมน (Birman) ซึ่งล้วนมีประวัติ ที่เชื่อมโยงกับวังหลวง แห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
แมว ในประวัติศาสตร์ ของพม่า ไม่ได้เป็นแค่สัตว์เลี้ยง หากแต่เป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ ในบริบทที่ลึกซึ้งยิ่งกว่า ตามตำนานเล่าขานว่า แมวสายพันธุ์ขนสั้นในพม่า จะถูกเลี้ยงดูในวัด และบางตัว ถึงขั้นกลายเป็นผู้พิทักษ์พระพุทธรูป หรือสัญลักษณ์ ของความบริสุทธิ์ในศาสนา
มันไม่ได้เป็นเพียงแค่ภาพโรแมนติก แต่เป็นความเชื่อจริงจัง ที่ผูกโยงแมว เข้ากับวิถีจิตวิญญาณ และชนชั้นปกครองของพม่า
ในวัดโบราณอย่างวัด Lao-Tsun มีตำนานว่า แมวสีทอง ดวงตาสดใส ได้เปลี่ยนจากแมวธรรมดา ไปเป็นสัตว์วิเศษ หลังจากนั่งเฝ้าร่างของพระอาจารย์ ผู้สิ้นลมต่อหน้าเทพเจ้า แมวตัวนั้นได้รับการเปลี่ยนสีขน เป็นสีทองแดง ดวงตาเป็นสีฟ้า และขนเท้าเป็นสีขาวบริสุทธิ์ [1]
จากนั้นก็ได้รับการเลี้ยงดู จากนักบวช และต่อมา ได้กลายเป็นสัตว์เลี้ยง ของราชวงศ์พม่า แมวที่ถูกเลือก ให้เข้าใกล้กษัตริย์ หรือราชินี จะต้องไม่ใช่แมวธรรมดา
มันต้องเงียบ ขรึม นุ่มนวล ไม่แสดงกิริยาก้าวร้าว และที่สำคัญ ต้องมี “สายตาแห่งปัญญา” เพราะตามความเชื่อของคนพม่า แมวเป็นสัตว์ที่สามารถ มองเห็นจิตใจของคนได้ และอาจช่วยขับไล่ สิ่งที่ไม่บริสุทธิ์ ออกจากวังหลวงได้ โดยไม่ต้องออกเสียงแม้แต่คำเดียว
แม้ชื่อเสียงในปัจจุบันของ เบอร์มีส (Burmese) จะโด่งดัง จากการถูกนำเข้าสู่ตะวันตก ในศตวรรษที่ 20 โดยนาวิกโยธินสหรัฐฯ ที่นำแมวตัวหนึ่งชื่อ “หว่องเมา” (Wong Mau) จากพม่ามายังอเมริกา แต่เบื้องหลังเบอร์มีส คือประวัติศาสตร์ ที่หยั่งรากลึกยิ่งกว่านั้น [2]
ในอดีต เบอร์มีสไม่ได้ถูกเลี้ยง อย่างแพร่หลายนอกวังหลวง เพราะเป็นแมวประจำราชสำนัก ตัวที่ได้เข้าไปอยู่ในวัง ต้องมีลักษณะครบถ้วนตามคติ ดวงตาสีทองอ่อน ขนสีน้ำตาลอุ่นดุจสำริด เงางามแนบลำตัว และบุคลิกสงบ เปี่ยมไปด้วยสติสัมปชัญญะ
ลักษณะที่ไม่ใช่เพียง ความงามภายนอก แต่รวมถึงความสุภาพ และสมดุลภายใน ซึ่งสะท้อนจิตวิญญาณของกษัตริย์ ในคติพุทธแบบพม่า แมวเบอร์มีสคือ “เพื่อนในเงา” ของกษัตริย์ เป็นผู้เฝ้ามองแบบไม่ตัดสิน และคือภาพแทน ของความยั่งยืนในอำนาจ ที่ไม่ต้องการเสียงโหวกเหวกใดๆ มาเสริมสร้างบารมี
แมวอีกสายพันธุ์ ที่มักถูกเข้าใจ ว่าเป็นพี่น้องกับเบอร์มีสคือ เบอร์แมน (Birman) หรือในบางตำราเรียกว่า Sacred Cat of Burma เป็นแมวขนยาว ดวงตาสีฟ้าสด และเท้าสีขาวดุจถุงมือ ต้นกำเนิดของเบอร์แมน เต็มไปด้วยตำนาน และกลิ่นอายของความลี้ลับ
บางตำนานบอกว่า พวกมันถูกเลี้ยงโดยนักบวช ในวิหาร Kittah และได้รับพรศักดิ์สิทธิ์ หลังการเสียชีวิตของพระอาจารย์ ในตำนานกล่าวว่า เมื่อพระอาจารย์สิ้นใจ แมวขาวตัวหนึ่ง ได้ขึ้นไปนั่งบนอกของท่าน
ดวงตาแมวตัวนั้น ได้เปลี่ยนเป็นสีฟ้า ขนกลายเป็นสีทอง และเท้าทั้งสี่ เปลี่ยนเป็นสีขาว จากการสัมผัสบริสุทธิ์ ต่อจิตของผู้ดับขันธ์ จากวันนั้น เบอร์แมนจึงได้กลายเป็น แมวแห่งพระเจ้า และต่อมา ก็ได้รับเกียรติ ให้อาศัยอยู่ในวังของราชวงศ์พม่า [3]
แมวพม่าในยุคก่อน ไม่ได้ถูกซื้อขาย แต่ถูกมอบหมาย เหมือนเป็นของขวัญ ที่บรรจุความศักดิ์สิทธิ์ และการไว้วางใจ ผู้ที่ได้รับแมวเหล่านี้ ถือเป็นผู้มีบุญ แม้แต่ในโลกปัจจุบัน แมวสายพันธุ์เหล่านี้ ก็ยังคงไว้ซึ่งความขรึม ความสง่างาม และความ “ไม่เหมือนใคร” ในแบบที่แมวสายเลือดอื่นๆ ยากจะเทียบ
บ้านใดที่มีเบอร์มีส หรือเบอร์แมน จะสัมผัสได้ ถึงบรรยากาศที่แปลกตา เงียบ ขรึม อ่อนโยน และลุ่มลึก เหมือนมีเงาของประวัติศาสตร์โบราณ แฝงอยู่ในมุมห้อง
แมวเหล่านี้ยังคงดำรงพฤติกรรม “ผู้สังเกตการณ์” มากกว่าเป็นนักวิ่งไล่จับ พวกมันจะเข้าใกล้แบบวางใจได้ มองลึกแต่ไม่รุกราน และปรากฏตัวอย่างสง่าเสมอ ราวกับยังมีเลือดของกษัตริย์ ไหลเวียนอยู่ในร่างกาย
สรุป แมว อดีตราชวงศ์ ที่แม้จะผ่านกาลเวลามายาวนาน แมวสายพันธุ์เบอร์มีส และเบอร์แมนก็ยังคงรักษา กิริยาสงบ สง่างาม และเปี่ยมด้วยความหมาย เชิงจิตวิญญาณ ไว้ได้อย่างน่าทึ่ง ยังคงสะท้อนภาพของเกียรติยศ ความขรึม และความลึกลับ ไว้ในทุกฝีก้าว
เบอร์มีสเป็นแมวที่รักความสัมพันธ์ แบบมีระยะห่างพอดี เขาอ่อนโยน แต่ไม่ชอบให้ใครเข้ามาเร็วเกินไป ต้องให้เวลาเขาเชื่อใจ ถ้าอยากให้เขารู้สึกปลอดภัย ควรให้พื้นที่สงบ มีมุมส่วนตัว และพูดกับเขา ด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนเสมอ
เหมาะกับคนที่ชอบความสงบ มีจิตใจละเอียดอ่อน และไม่เร่งเร้า เบอร์แมนไม่ใช่แมวสายป่วน แต่เป็นแมว ที่จะอยู่เป็นเพื่อนเราแบบเงียบๆ เขาต้องการคนที่เข้าใจภาษากาย และพร้อมจะอยู่ข้างๆ แบบไม่ต้องพูดเยอะ