
แมว ในยุคดิจิทัล จากสัตว์เลี้ยงสู่มีมล้านวิว
- Harry P
- 56 views
แมว ในยุคดิจิทัล เมื่ออินเทอร์เน็ต เริ่มมีบทบาทสำคัญต่อวิถีชีวิตผู้คน แมวกลายเป็นหนึ่งในเนื้อหายอดนิยม ที่ถูกเผยแพร่ผ่านภาพถ่าย และวิดีโอบนโลกออนไลน์ ความน่ารักของแมว ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง และมีบทบาทสำคัญ ในการก่อร่างวัฒนธรรม การแบ่งปันคอนเทนต์ในยุคดิจิทัล
ช่วงแรกของการเติบโตของ YouTube ในช่วงกลางทศวรรษที่ 2000 วิดีโอที่เกี่ยวข้องกับแมว เริ่มได้รับความนิยม อย่างรวดเร็ว วิดีโอที่นำเสนอ พฤติกรรมธรรมชาติของแมว อย่างการนอนหลับอย่างสบาย การเล่นซุกซน หรือแม้แต่การล้มเหลว ในการกระโดด
กลายเป็นเนื้อหา ที่ได้รับความสนใจ จากผู้ชมทั่วโลก ความเรียบง่าย และความเป็นธรรมชาติ ของเนื้อหาเหล่านี้ ส่งผลให้เข้าถึงผู้ชม ได้ทุกกลุ่มอย่างรวดเร็ว ตัวอย่างที่โดดเด่นคือ “Keyboard Cat” ซึ่งนำเสนอแมว ที่ดูเหมือนกำลังเล่นเปียโน, “Maru” แมวที่มีชื่อเสียง จากการชอบกล่องกระดาษ [1]
และสุดท้าย “Grumpy Cat” แมวที่กลายเป็นสัญลักษณ์ ของการแสดงอารมณ์เฉยเมย ทั้งหมดนี้ พิสูจน์ให้เห็นว่าแมว สามารถกลายเป็นสื่อกลาง ในการสร้างความนิยม และชื่อเสียงในระดับนานาชาติได้ แม้ในกรณี ที่ไม่มีการวางแผน หรือกลยุทธ์การตลาดอย่างเป็นระบบ
การเกิดขึ้น ของมีมแมว ตัวอย่างเช่น “I Can Has Cheezburger?” (ฉันกินชีสเบอร์เกอร์ได้ไหม) สะท้อนให้เห็น ถึงการสร้างภาษาภาพใหม่ ที่ใช้แมวเป็นตัวแทน ในการสื่อสารอารมณ์ ความรู้สึก และความคิดเห็นทางสังคม
มีมเหล่านี้มักใช้การเขียน แบบผิดหลักไวยากรณ์ และการบิดเบือนภาษาธรรมดา เพื่อเพิ่มความขบขัน และน่าจดจำ ส่งผลให้แมว ไม่เพียงเป็นตัวละครที่น่ารัก แต่ยังกลายเป็นเครื่องมือ ในการสื่อสารทางสังคม ที่มีประสิทธิภาพ ในสังคมออนไลน์ [2]
ความนิยมของแมว ในโลกออนไลน์นั้น นำไปสู่การขยายตัวของเศรษฐกิจ เกี่ยวกับแมวอย่างเป็นรูปธรรม ธุรกิจจำหน่ายสินค้า เกี่ยวกับแมว เช่น เสื้อผ้า ของใช้ ของเล่น และของสะสม เติบโตอย่างรวดเร็ว ทั้งในระดับบุคคล และองค์กร
แมวเซเลบที่มีฐานแฟนคลับจำนวนมาก ถูกพัฒนาเป็นแบรนด์ที่มีสินค้า ลิขสิทธิ์ และการออกแบบเฉพาะตัว มีการปรากฏตัว ในสื่อหลากหลายรูปแบบ ทั้งหนังสือ สารคดี โฆษณา และงานอีเวนต์ โดยบางตัวสามารถสร้างรายได้ ให้กับเจ้าของ ในระดับหลายล้านดอลลาร์ ภายในระยะเวลาเพียงไม่กี่ปี
นอกจากนี้ยังมีธุรกิจใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องกับแมว เกิดขึ้นตามมา เช่น คาเฟ่แมว บริการถ่ายภาพแมว และแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียเฉพาะทาง สะท้อนให้เห็นว่า แมวไม่ได้เป็นเพียงสัตว์เลี้ยงอีกต่อไป แต่เป็นทรัพย์สินทางเศรษฐกิจ ที่มีศักยภาพสูง ในโลกดิจิทัล
ในสังคมที่มีความเครียดสูง และมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว แมวได้กลายเป็น แหล่งบรรเทาความเครียดอย่างหนึ่ง พฤติกรรมตามธรรมชาติของแมว อย่างการนอนหลับ การเลียขนอย่างมีสมาธิ หรือการเดินเล่นแบบไม่เร่งรีบ เป็นการสร้างภาพจำ ของการดำรงชีวิต ที่ไม่ถูกเร่งรัด ด้วยปัจจัยภายนอก
แมวดำรงชีวิตของตนเอง โดยไม่เกี่ยวข้องกับปัญหาสังคม หรือเศรษฐกิจ ทำให้พฤติกรรมเหล่านี้ กลายเป็นตัวแทน ของการใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย และการพอใจในสิ่งเล็กน้อย ทั้งยังช่วยสะท้อนแนวคิด เรื่องการอยู่กับปัจจุบันอย่างมีสติ (mindfulness) ได้อย่างชัดเจน
ภาพแมวในอิริยาบถผ่อนคลาย จึงกลายเป็นเครื่องมือ ทางจิตวิทยาในการบรรเทาความเครียด สำหรับผู้คนในยุคดิจิทัล ซึ่งเต็มไปด้วยข้อมูลข่าวสาร และแรงกดดันรอบด้าน
โปรไฟล์แมวในโลกโซเชียล ที่ผู้คนจำนวนมาก เลือกแสดงออกตัวตน ผ่านการสร้างบัญชีโซเชียลมีเดียของแมว บัญชีเหล่านี้ กลายเป็นช่องทาง ในการสื่อสารความรู้สึก ความคิด และมุมมอง ในรูปแบบที่บางครั้ง ผู้สร้างก็ไม่สามารถแสดงออกได้โดยตรง
การโพสต์ภาพ และวิดีโอพฤติกรรมต่างๆของแมว ช่วยสร้างการเชื่อมต่อทางอารมณ์ กับผู้ติดตาม และสะท้อนตัวตนของเจ้าของ ผ่านภาพลักษณ์ของสัตว์เลี้ยง และเมื่อเทคโนโลยี AI ก้าวหน้า แมวก็ได้เริ่มมีบทบาท ในโลกเสมือนจริง อย่างหลากหลายมากขึ้นไปอีก ไม่ว่าจะเป็นในเกม ที่แมวมีพฤติกรรมสมจริง
หรือในรูปแบบของ Virtual Influencer ที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น แมวเสมือนเหล่านี้ ไม่เพียงทำหน้าที่สร้างความบันเทิง แต่ยังเป็นส่วนหนึ่ง ของการสร้างความสัมพันธ์ทางอารมณ์ ผ่านโลกดิจิทัล สะท้อนให้เห็นว่า แมวจะยังคงมีบทบาทสำคัญ ในวัฒนธรรมออนไลน์ต่อไปในอนาคต
ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา นักวิชาการจำนวนมาก ได้ให้ความสนใจเรื่อง แมว กับอารมณ์มนุษย์ บทบาทของแมวในโลกดิจิทัล ในฐานะปรากฏการณ์ทางสังคม และวัฒนธรรม งานวิจัยของ Myrick (2015) พบว่า การดูวิดีโอแมวออนไลน์ มีผลในการลดความเครียด และเพิ่มอารมณ์เชิงบวก ได้อย่างมีนัยสำคัญ [3]
ซึ่งสนับสนุนสมมติฐานว่า เนื้อหาเกี่ยวกับแมว ไม่ได้เป็นเพียงความบันเทิง แต่ยังมีผลกระทบ เชิงจิตวิทยาอย่างแท้จริง นอกจากนี้ Rettberg (2014) ได้วิเคราะห์ การใช้ภาพแมวในฐานะ “การเล่าเรื่องดิจิทัล” ที่ผู้ใช้สร้างขึ้น เพื่อสะท้อนตัวตน และสร้างสายสัมพันธ์ทางอารมณ์ ในพื้นที่ออนไลน์
ผลการศึกษาเหล่านี้ สะท้อนให้เห็นว่า แมวในยุคดิจิทัล ไม่ได้มีบทบาท เพียงในเชิงสันทนาการ แต่ยังกลายเป็นเครื่องมือสื่อสาร และสร้างสังคมใหม่ ในโลกออนไลน์ ได้อย่างมีนัยสำคัญทางวัฒนธรรม และจิตวิทยา
ผลก็คือ แมว ในยุคดิจิทัล ได้กลายเป็นปรากฏการณ์สำคัญ ในโลกออนไลน์ ที่ไม่ใช่แค่เป็นภาพความน่ารัก แต่ยังเป็นเครื่องมือสำคัญ ในการเชื่อมโยงผู้คนในสังคม สะท้อนถึงบทบาทสำคัญ ที่สัตว์เลี้ยงสามารถมีได้ ในโลกดิจิทัลของเรา ซึ่งยังคงพัฒนา และเติบโตไปได้อีกในอนาคต
เพราะความน่ารัก ตามธรรมชาติของแมว เช่น การนอนหลับ การเล่นซุกซน หรือพฤติกรรมเงอะงะ ทำให้ผู้คนรู้สึกผ่อนคลาย และเข้าถึงได้ง่าย นอกจากนี้ ความเรียบง่าย ของเนื้อหาเกี่ยวกับแมว ยังเหมาะกับการบริโภค ในยุคอินเทอร์เน็ต ที่มีข้อมูลไหลเร็ว
มีมแมว เช่น I Can Has Cheezburger ? ทำให้เกิดภาษาภาพแบบใหม่ ที่ใช้แมวเป็นตัวแทนในการสื่อสารอารมณ์ และความคิดเห็น มีมเหล่านี้ยังช่วยสร้างความขบขัน ลดระยะห่างทางสังคม และเป็นสื่อกลาง ที่เชื่อมโยงผู้คนในโลกดิจิทัล