
โทษทัณฑ์ เทพต้องคำสาป เมื่อสวรรค์ไม่ปรานี
- J. Kanji
- 35 views
โทษทัณฑ์ เทพต้องคำสาป เป็นเรื่องราวที่น่าสนใจ ในตำนานกรีกโบราณ แม้ว่าเหล่าทวยเทพ จะมีอำนาจ และเป็นอมตะ แต่พวกเขาก็ไม่ได้หลุดพ้น จากการถูกลงโทษ เมื่อทำผิด บทความนี้ จะพาไปรู้จักกับเทพเจ้า ในตำนานกรีก ที่ต้องโทษทัณฑ์ จากการกระทำของตน รวมถึงข้อคิด ที่สามารถปรับใช้ ในชีวิตประจำวันได้
โพรมีธีอุส เป็นไททันที่รักมนุษย์มาก เขาได้แอบปีนขึ้นไป บนยอดเขาสูงสุด ของโอลิมปัส ที่เป็นโรงงานของ เทพเจ้า ฮิฟีสตัส แห่งงานช่าง เพื่อขโมยไฟจากสวรรค์ มามอบให้มนุษย์ ที่ยังล้าหลังในยุคนั้น การกระทำนี้ทำให้ซุส (Zeus) ผู้เป็นเทพสูงสุดโกรธมาก
จึงสั่งให้นำโพรมีธีอุส ไปล่ามโซ่ติดกับหน้าผา ที่เทือกเขาคอเคซัส และส่งนกอินทรี มาจิกกินตับของเขาทุกวัน แต่เนื่องจากโพรมีธีอุส เป็นอมตะ ตับของเขาจะงอกใหม่ทุกคืน ทำให้เขาต้องทนทุกข์ทรมาน ซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนกระทั่งเฮอร์คิวลิส (Hercules) มาช่วยปลดปล่อยเขา ในเวลาต่อมา [1]
โพรมีธีอุสถูกลงโทษ เพราะความเมตตา และความรักที่มีต่อมนุษย์ จนยอมขัดคำสั่ง เทพผู้ยิ่งใหญ่ แม้จะรู้ว่าตน ต้องถูกลงโทษอย่างสาหัส เรื่องนี้สอนให้เรารู้ว่า การเสียสละเพื่อผู้อื่น อาจมีราคาที่ต้องจ่าย แต่บางครั้ง การทำสิ่งที่ถูกต้อง ก็มีค่าเกินกว่า ความสบายของตัวเอง
ซิซิฟัส (Sisyphus) เป็นกษัตริย์ที่เฉลียวฉลาด แต่เจ้าเล่ห์มาก เขาสามารถหลอก เทพแห่งความตาย และขัดขวาง ระเบียบธรรมชาติ ได้ชั่วคราว เมื่อถึงเวลา ที่เขาต้องไปยัง โลกหลังความตาย เฮเดส (Hades) จึงลงโทษเขา ด้วยการให้กลิ้งก้อนหินขนาดใหญ่ ขึ้นไปบนภูเขา
แต่ทุกครั้ง ที่เขากลิ้งหิน ไปถึงยอดเขา ก้อนหินจะกลิ้งกลับลงมา ทำให้เขาต้องเริ่มต้นใหม่ ตลอดไปไม่มีที่สิ้นสุด การลงโทษซิซิฟัส สะท้อนถึงความเปล่าประโยชน์ และความไร้สาระ ของการพยายาม ในการฝืนกฎธรรมชาติ [2]
เรื่องนี้สอนเราว่า การใช้ความฉลาด ไปในทางที่ผิด หรือคิดว่าตนเองฉลาด เกินกว่าระบบ และกฎเกณฑ์ อาจนำไปสู่การลงทัณฑ์ ที่ทรมาน และไร้จุดจบได้ เราควรใช้ความฉลาด ไปในทางที่สร้างสรรค์ และเคารพกฎธรรมชาติ
แทนทาลัส (Tantalus) เป็นกษัตริย์ ที่ได้รับเกียรติ ให้ร่วมโต๊ะอาหาร กับเหล่าทวยเทพ แต่เขากลับเลือก ทำในสิ่งที่ผิดมหันต์ ไม่ว่าจะเป็นการ ขโมยอาหารทิพย์ และน้ำอมฤต จากโต๊ะเลี้ยง หรือแม้กระทั่ง การฆ่าลูกชายของตนเอง แล้วทำเป็นอาหารเลี้ยงเทพ เพื่อทดสอบ ความรู้แจ้งของพวกเขา
เทพทั้งหลาย จึงลงโทษเขา ด้วยการให้ยืนอยู่ในสระน้ำ ที่มีผลไม้ ห้อยอยู่เหนือศีรษะ แต่ทุกครั้งที่เขา จะก้มลงดื่มน้ำ น้ำจะลดระดับลง จนดื่มไม่ได้ และทุกครั้งที่เขา จะเอื้อมมือไปเก็บผลไม้ กิ่งไม้จะพลิ้วไหวหนี ไปทำให้เก็บไม่ได้ เขาจึงต้องทนทุกข์ทรมาน กับความหิว และกระหายตลอดกาล
บทเรียนจากเรื่องนี้ คือความโลภ และการทรยศ ต่อความไว้วางใจ มีราคาที่ต้องจ่าย ที่แสนสาหัสแทน ทาลัสมีทุกอย่างแล้ว ทั้งความมั่งคั่ง และเกียรติยศ แต่กลับไม่รู้จักพอ จนต้องสูญเสียทุกสิ่ง เรื่องนี้เตือนใจเรา ให้พึงพอใจในสิ่งที่มี และรักษาความไว้วางใจ ที่ผู้อื่นมอบให้
อะแร็กเน่ (Arachne) เป็นสาวช่างทอผ้า ที่มีฝีมือยอดเยี่ยม เธอมีความภาคภูมิใจ ในฝีมือของตนเองมาก จนถึงขั้นโอ้อวด ว่าฝีมือเธอเหนือกว่า เทพีอะธีนา (Athena) เทพีแห่งงานฝีมือ
อะธีนาได้ท้าทาย ให้อะแร็กเน่แข่งขันทอผ้ากัน ผลงานของอะแร็กเน่ นั้นสวยงามมาก แต่เนื้อหาของภาพที่ทอ มีลักษณะล้อเลียน และดูหมิ่นเหล่าทวยเทพ อะธีนาโกรธ จึงสาปให้อะแร็กเน่ กลายร่างเป็นแมงมุม ต้องทอใยไปชั่วชีวิต
เรื่องของอะแร็กเน่ สอนเราเรื่องความอ่อนน้อมถ่อมตน ความสามารถพิเศษ ไม่ใช่ข้ออ้าง สำหรับความหยิ่งยโส หรือการดูหมิ่นผู้อื่น บางครั้งการยอมรับ ข้อจำกัดของตนเอง และการแสดงความเคารพต่อผู้อื่น มีความสำคัญมากกว่า ความสามารถ เราควรภูมิใจ ในความสามารถของตน โดยไม่จำเป็น ต้องลดค่าผู้อื่น
กษัตริย์มีดาส (King Midas) เป็นผู้ปกครอง ที่รักความมั่งคั่ง วันหนึ่งเขาได้ช่วยเหลือ ซิเลนัส (Silenus) ซึ่งเป็นผู้ติดตามของ ไดโอนีซัส เทพแห่งการมึนเมา ไดโอนีซัสจึงเสนอ จะมอบพรให้ กษัตริย์มีดาส ตามที่ต้องการ มีดาสขอพร ให้ทุกอย่างที่เขาสัมผัส กลายเป็นทองคำ
เมื่อได้รับพร เขาก็เริ่มตระหนัก ถึงความผิดพลาดของตน เมื่ออาหาร และเครื่องดื่มที่เขาแตะ ต้องกลายเป็นทองคำทั้งหมด แม้ลูกสาวสุดที่รัก วิ่งมากอดเขา ก็กลายเป็นรูปปั้น ทองคำทันที มีดาสอ้อนวอนขอ ให้ไดโอนีซัส เอาพรนั้นคืน ซึ่งเทพก็เมตตา สั่งให้เขาไปล้างมือ ในแม่น้ำแพคโตลัส (Pactolus)
เพื่อชำระล้างพรนั้น เรื่องราวของมีดาส สอนให้เราระมัดระวัง ในสิ่งที่ปรารถนา บางครั้งสิ่งที่เราคิดว่าดีที่สุด อาจกลายเป็นหายนะได้ เรื่องนี้ยังเตือนใจเรา ให้เห็นคุณค่า ของสิ่งที่มีอยู่แล้วในชีวิต มากกว่าการไขว่คว้า หาสิ่งใหม่ๆ ที่อาจนำมาซึ่ง ความทุกข์ [3]
ไอโอ (Io) เป็นนางเอกในตำนาน ที่น่าสงสาร เธอเป็นนักบวชหญิง ที่สวยงาม จนเทพซุสหลงรัก แต่เพื่อปกปิดความสัมพันธ์ จากเฮรา (Hera) ซุสจึงเนรมิตให้ไอโอ กลายร่างเป็นแม่วัวสีขาว แต่เฮรารู้ทันกลอุบายนี้ จึงขอแม่วัวสีขาวจากซุส และส่งอาร์กัส (Argus) ผู้มีตานับร้อยมาคอยเฝ้า
นอกจากนี้ ยังได้ส่งตัวเหลือบ มาคอยรุมกัดไอโอให้ทรมาน ทำให้ไอโอต้องเร่ร่อน ไปทั่วโลก ในร่างของแม่วัว จนกระทั่งในที่สุด ซุสขอร้องให้เฮรา ปลดปล่อยเธอ เรื่องของไอโอแสดงให้เห็นว่า บางครั้งเราอาจตกเป็นเหยื่อ ของเหตุการณ์ที่ควบคุมไม่ได้ แม้จะไม่ได้ทำอะไรผิด
ความอดทน และความกล้าหาญของไอโอ ในการเผชิญชะตากรรม สอนให้เรารู้ว่า แม้ในสถานการณ์ ที่ยากลำบากที่สุด ก็ยังมีความหวัง และโอกาส ที่สถานการณ์จะดีขึ้นได้ เราต้องไม่ยอมแพ้ ต่อชะตากรรม แต่พยายามอดทน จนกว่าจะผ่านพ้น ช่วงเวลาที่ยากลำบากไปได้
สรุป โทษทัณฑ์ เทพต้องคำสาป และมนุษย์ในตำนานกรีก แม้ต้องได้รับ มีความรุนแรง และทรมาน แต่ก็แฝงไว้ด้วยบทเรียนอันล้ำค่า สำหรับมนุษย์ทุกยุคสมัย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ การรู้จักพอ การไม่หยิ่งยโส การใช้ปัญญา ในทางที่ถูกต้อง หรือการมีความอดทน เมื่อต้องเผชิญ กับความยากลำบาก
แม้จะเป็นเทพเจ้า ผู้ทรงอำนาจ แต่ในตำนานกรีกก็มีกฎเกณฑ์ ที่แม้แต่เทพเอง ก็ต้องเคารพ เทพองค์ใด ที่ละเมิดกฎเกณฑ์ มักจะถูกลงโทษอย่างสาหัส นอกจากนี้ เรื่องราวเหล่านี้ ยังถูกสร้างขึ้น เพื่อสอนบทเรียน ทางศีลธรรมแก่มนุษย์ว่า แม้แต่ผู้ที่มีอำนาจมาก ก็ยังต้องรับผิดชอบ ต่อการกระทำของตนเอง
สิ่งที่เทพเจ้าแต่ละองค์ ต้องคำสาป ล้วนเป็นตัวอย่าง ของการล้ำเส้น ไม่เคารพขอบเขต จนนำไปสู่หายนะ เรื่องราวเหล่านี้ สอนให้เรารู้จักประมาณตน มีความอ่อนน้อมถ่อมตัว และตระหนักว่าความโลภ ความหยิ่งยโส หรือการฝืนกฎธรรมชาติ ล้วนนำมาซึ่งผลร้าย ในท้ายที่สุด